"กระต่าย พรรณนิภา" โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง "เธอมันแค่ของเก่า"

08 พฤศจิกายน 2564

ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็เป็นประเด็น สำหรับนักร้องสาว "กระต่าย พรรณนิภา" ล่าสุด หลังจากปล่อยคัฟเวอร์เพลง "เธอมันแค่ของเก่า" โดนชาวเน็ตถล่มยับ

ขยับตัวทำอะไรก็กลายเป็นประเด็นอยู่เสมอสำหรับนักร้องลูกทุ่งสาว "กระต่าย พรรณนิภา" ภรรยาคู่ชีวิตของ "ครูไพบูลย์ แสงเดือน" แห่งจ้วดจ้าด Studio ล่าสุด ได้ปล่อยวิดีโอคัฟเวอร์เพลง "เธอมันแค่ของเก่า" ลงในช่องยูทูบ กระต่าย พรรณนิภา OFFICIAL ซึ่งเนื้อเพลงดังกล่าวมีประโยคเด็ดที่ทำให้ชาวเน็ตต่างเดือดปรี๊ด อาทิ "อดีตหลบไปปัจจุบันเขาจะเดิน อยากบวกก็เชิญบ่เคยขัดจัดให้ว่ามา อดีตแค่เคยรักกัน ปัจจุบันนั้นรักมากกว่า อย่าสะเออะอย่าเสนอหน้า อย่าหน้าหนาเธอมันแค่ของเก่า"

กระต่าย พรรณนิภา โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง เธอมันแค่ของเก่า

ทั้งนี้ หลังจากปล่อยเพลงไปได้ไม่ทันไร ก็มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก อาทิ ตรงกับชีวิต อินเนอร์จัดเต็ม , เพราะมากๆ เลยเหมือนกลั่นกรองออกมจากส่วนลึกและจิตวิญญาณ จิตใต้สำนึกอันลึกล้ำ ทั้งอินเนอร์นักร้องที่ส่งออกมา หาที่เปรียบไม่ได้ , เก่งมากเลย แย่งของเขามา แล้วร้องเพลงด่าเขาอีก เด็กคนนี้สุดยอดจริงๆ ชีวิตนี้ยังไงก็บรรลัยแน่นอน สนับสนุนครับ

กระต่าย พรรณนิภา โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง เธอมันแค่ของเก่า

กระต่าย พรรณนิภา โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง เธอมันแค่ของเก่า

 

กระต่ายเธอมันหนายิ่งกว่าหนาแล้ว ขนาดคนมีพระคุณยังทำให้เขาเจ็บขนาดนี้ ผู้หญิงดีๆเขาไม่ทำกันหรอก มีแต่ผู้หญิงต่ำๆไร้ยางอายเท่านั้นแหละที่ทำได้ ถึงในตอนนี้คุณจะหลอกตัวเองยังไงมันก็สายไปแล้วล่ะ อย่ากดให้ตัวเองต่ำไปกว่านี้เลย ยิ่งดูมันยิ่งมองเห็นถึงสมองต่ำๆไร้ยางอายของคุณว่ามันเป็นยังไง สงสารอนาคตเด็กที่เกิดมาจริงๆ ถ้าถูกเลี้ยงดูมาในแม่ที่แย่งผัวชาวบ้าน อย่าสอนเด็กให้เป็นเด็กมีปัญหาแบบคุณเลย น่าสมเพชจริงๆ , ผู้ใหญ่กว่าควรรู้จักสั่งสอนให้รู้จักอันไหนควรไม่ควร แต่นี้กลับดึงกันไปทางที่ผิด ไม่สำนึกว่าที่ตอนนี้คนไม่ยอมรับเพราะการกระทำของตัวเองตอนนี้ ไม่ใช่เพราะเอ๋ แต่เพราะไม่สำนึกผิดไม่พอ ยังมาตอบกลับเขาแบบตัวเองจะถูกให้ได้ เรื่องไม่จบหรอก มีแต่ดับ เป็นต้น

กระต่าย พรรณนิภา โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง เธอมันแค่ของเก่า

กระต่าย พรรณนิภา โดนชาวเน็ตถล่มยับ หลังคัฟเวอร์เพลง เธอมันแค่ของเก่า

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews