พระสังฆาธิการ แห่ลาออกกว่าครึ่งร้อย ค้านมติถอดถอนเจ้าคณะฯ

21 ตุลาคม 2564

พระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะตำบล (ธรรมยุต) รวมพลังตบเท้ายื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งแล้ว 45 รูป ค้านคำสั่งมส.-พศ. ถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธรรมยุต) และไม่เห็นด้วยตั้งพระครูจากจังหวัดหนองคายข้ามห้วยมาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปใหม่

จากกรณี มหาเถรสมาคม มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการและถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป โดยปรากฏทางสื่อโซเชียล เมื่อวันที่ 30 กันยายน2564ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) และญาติธรรมออกเคลื่อนไหวคัดค้านทันที เพราะไม่มีการชี้แจงถึงสาเหตุ และมองว่าการถอดถอนไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งมีการล่ารายชื่อหนึ่งแสนคนถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่10 เพื่อขอความเป็นธรรม และยื่นเรื่องให้คณะกรรมาธิการศาสนาและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ กระทั่งมีกระแสคัดค้านจากพุทธศาสนิกชนและพระสงฆ์อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชให้เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสคัดค้านมติมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีคำสั่งถอดถอนพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม อดีตเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และคัดค้านคำสั่งแต่งตั้งพระครูสุทธิญาณโสภณ หรือพระอาจารย์เล็ก จากเจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย มาเป็นเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์คนใหม่ ของประชาชนและพุทธศาสนิกชน รวมถึงพระสงฆ์(ธรรมยุต)ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และใกล้เคียงยังคงมีต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะมีการร่วมลงชื่อคัดค้านด้วยลายมือในสมุดและระบบออนไลน์กว่า 300,000 คนแล้ว หลายพื้นที่ยังคงไม่เห็นด้วยและมีกระแสต่อต้านการเข้ามาเป็นเจ้าคณะคนใหม่ โดยมีการขึ้นป้ายคัดค้านคำสั่งดังกล่าว รวมทั้งวัดและสำนักสงฆ์หลายแห่ง ซึ่งทั้งพระและประชาชนมีกระแสไม่ต้อนรับพระอาจารย์เล็กเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสของวัด ก่อนรับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด

พระสังฆาธิการ แห่ลาออกกว่าครึ่งร้อย ค้านมติถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด

ทั้งนี้ กระแสการต่อต้านเรื่องดังกล่าวยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะพระสงฆ์สายป่า (ธรรมยุต) จากวัดต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านไปแล้ว และล่าสุดมีรายงานว่า มีพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะอำเภอยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งแล้ว7รูป จากทั้งหมด13รูป ปกครองในพื้นที่18อำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ ประกอบด้วย อ.นามน อ.ห้วยเม็ก อ.ยางตลาด อ.ท่าคันโท อ.สมเด็จ อ.กุฉินารายณ์ และอ.ฆ้องชัย นอกจากนี้ยังมีพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบลยื่นเรื่องลาออกจากตำแหน่งอีก38รูป จากตำแหน่งเจ้าคณะตำบล(ธรรมยุต)ทั้งหมด41ตำบล ซึ่งเป็นการแสดงพลังไม่เห็นด้วย และคัดค้านคำสั่งถอดถอนเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับการตั้งเจ้าคณะจังหวัดรูปใหม่ที่ข้ามห้วยมาจาก จ.หนองคาย

ขณะที่บรรยากาศที่วัดประชานิยม อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ยังคงมีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก เดินทางมาทำบุญตักบาตรและถวายภัตตาหาร เนื่องในวันออกพรรษากันตามปกติ โดยวันนี้เจ้าคุณบัวศรี ได้ลงปฏิบัติกิจรับบิณฑบาตและลงหอฉันเหมือนเช่นทุกวัน พร้อมรอยยิ้มที่มีความสดใสผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้พูดถึงดังกล่าว ทำให้ศิษยานุศิษย์ที่มาทำบุญเห็นแล้วต่างก็ยิ้มตามไปด้วย แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ปนความเศร้าและสงสาร เพราะจนถึงปัจจุบันทุกคนก็ยังไม่ทราบถึงเหตุผลของมหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่ถอดถอน จึงมองว่าเจ้าคุณบัวศรี ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนก็ยังเคารพศรัทธา และพร้อมที่จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมต่อไป

พระสังฆาธิการ แห่ลาออกกว่าครึ่งร้อย ค้านมติถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด

นางละมุล โคตรนนท์ อายุ74ปี อยู่บ้านเลขที่109/3ถ.อนรรฆนาค เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้นมากเล็กน้อยกับเรื่องการปลดเจ้าคุณบัวศรี แต่ลึกๆในใจก็รู้สึกเสียใจ ทำไมถึงได้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ในเมื่อท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพราะอะไรถึงได้มายัดเยียดข้อหาต่างๆ จนตนรับไม่ได้ ส่วนพระครูเล็กที่จะมาปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์องค์ใหม่ ถ้าจะมาก็มาได้แต่โดยส่วนตัวไม่สามารถจะยอมรับได้ ถ้าท่านจะมาจะอยู่วัดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วจะเอาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์องค์เก่าไปไว้ที่ไหน อย่างไรก็ตามตนและพุทธศาสนิกชนยังศรัทธาในองค์หลวงตาเจ้าคุณบัวศรีเช่นเดิม ส่วนพระครูเล็กที่จะมาปกครองคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) ทั้งจังหวัดอาจจะทำให้คณะสงฆ์มีความเข้าใจผิดเกิดความแตกแยกได้

พระสังฆาธิการ แห่ลาออกกว่าครึ่งร้อย ค้านมติถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด