สาวใช้ตัวเองเป็นเน็ตไอดอล อ้างคบหาอดีตนักการเมือง ก่อเรื่องฉาวบนเฟซบุ๊ก

17 ตุลาคม 2564

บก.ปอศ. “รวบสาวแสบ” หลอกลงทุนแชร์ออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก โกงเงิน เกือบ 4 ล้าน เจ้าตัวอ้างเป็น "เน็ตไอดอล" และอ้างเคยคบหาอดีตนักการเมืองดัง

จากกรณี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุม น.ส.เต็มใจ จรัสสมบูรณ์สุข อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1356/2563 ลงวันที่ 7 กันยายน 2563  ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฉ้อโกงประชาชน"

สถานที่จับกุม หน้าห้องเลขที่ 80/123 คอนโด ป.ธนาทาวเวอร์ 1 ซอย ลาดพร้าว 58/1 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ก่อเหตุ ผู้ต้องหา ได้หลวงลวงกลุ่มผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนเล่นแชร์ออนไลน์ โดยการโพสเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก ในกลุ่มแม่และเด็ก เมื่อมีผู้สนใจ ผู้ต้องหาจะทำการดึงผู้ที่สนใจเข้ากลุ่มส่วนตัว โดยในกลุ่มนั้น จะมีผู้ต้องหาซึ่งได้ตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ และจะชักชวนให้ผู้เสียหาย ลงเล่นแชร์คนละจำนวนหลาย ๆ วง

สาวใช้ตัวเองเป็นเน็ตไอดอล อ้างคบหาอดีตนักการเมืองดัง สร้างเรื่องฉาวบนเฟซบุ๊ก

ซึ่งแต่ละวงที่กลุ่มผู้เสียหายลงเล่นแชร์นั้น จะมีชื่อของผู้ลงทุนเล่นแชร์ที่ไม่มีตัวตนจริงร่วมอยู่ด้วย เพื่อใช้ในการเปียแชร์เอาเงินจากในมือต้นๆ ออกมา และพอครบกำหนดงวดแชร์ที่กลุ่มผู้เสียหายต้องได้เงิน กลับไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่า ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงแล้ว จึงได้มาร้องทุกข์ ที่ กก.4 บก.ปอศ. จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันหลายครั้งและมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก มีมูลค่าความเสียหาย ถึงเกือบ 4 ล้านบาท พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”

 

- เตือนภัย บัญชีธนาคารในไทยหลายบัญชี "โดนแฮก"

- เริ่ม 18 ต.ค.นี้! รายชื่อ 8 ร้านขายยา ขาย "ชุดตรวจ ATK" ราคา 40 บ.

- สาวจำขึ้นใจ เชื่อกูเกิลมาก ทำเมนูไข่ไมโครเวฟ สุดท้ายต้องจำไปทั้งชีวิต

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปพักอาศัยที่ คอนโดแห่งหนึ่งในย่านลาดพร้าว จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีต่อไป

สาวใช้ตัวเองเป็นเน็ตไอดอล อ้างคบหาอดีตนักการเมืองดัง สร้างเรื่องฉาวบนเฟซบุ๊ก

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews