ฝรั่งโหด "ขุดวีรกรรม" มีทั้งคดีเก่าติดตัวจากบ้านเกิด แจ้งข้อหาหนัก

02 ตุลาคม 2564

ขุดวีรกรรมฝรั่งโหดมีทั้งคดีเก่าติดตัวจากบ้านเกิด แจ้งข้อหาหนักแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยใช้วีซ่าอุปการะภรรยา

จากกรณีฝรั่งโหดก่อเหตุสาวร้านนวดที่ขอนแก่น ล่าสุดรอง ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ เนื่องจากผู้ต้องหากระทำผิดอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ผู้เสียหายเป็นหญิงที่ประกอบอาชีพพนักงานนวดอาจทำให้เพื่อนร่วมอาชีพเกิดความหวาดระแวงต่ออาชญากรรม

จากการตรวจสอบหลักฐานกล้องวงจรปิดเชื่อมโยงข้อมูลในระบบสารสนเทศของงานตรวจคนเข้าเมืองทราบว่าผู้ต้องสงสัยคือนายโรเบิร์ต (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี สัญชาติอเมริกัน จากข้อมูลการแจ้งที่พักของชาวต่างชาติและการรายงานตัวทุก 90 วัน ทำให้ทราบว่า นายโรเบิร์ต พักอาศัยอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านซอยนานา ถ.สุขุมวิท กทม. จึงได้ขออนุมัติหมายศาลจังหวัดขอนแก่นตามหมายจับที่จ. 160/2554 ลง 1 ต.ค. 64 เข้าทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ตามที่อยู่ข้างต้น ในที่เกิดเหตุพบเสื้อผ้าทรัพย์สินและรถจักรยานยนต์ในวันที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ 

 

จับกุมฝรั่งโหด

 

- ญาติแฉ รพ. ปล่อยคนไข้นอนรอจนรักษาไม่ทัน ไปเขย่าตัวถึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้ว

- ชาวบ้าน รวมตัวประท้วง ขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ทำงานแต่กินเงินเดือน อ้างป่วย!

- อธิบดีกรมเจ้าท่า วิทยา ยาม่วง "ลาออก" มีผล 1 พ.ย.64

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยใช้วีซ่าอุปการะภรรยา เนื่องจากมีภรรยาเป็นคนไทย โดยเคยเดินทางเข้าออกประเทศไทยแล้ว 3 ครั้ง ตรวจสอบประวัติพบเคยมีคดีทำร้ายร่างกายในประเทศบ้านเกิด นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรม มีความต้องการสูง และใช้ความรุนแรง โดยในระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา ได้ กล่าวความรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ตนเองทำ ทั้งนี้ก่อนหน้าจะก่อเหตุได้ใช้ยามา 1 เม็ดจึงทำให้เกิดอารมณ์

 

แถลงข่าวจับฝรั่งโหด

 

นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังระบุว่า ในการจับกุมคนร้ายพฤติกรรมประเภทนี้ จำเป็นจะต้องจับกุมให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ตนเองมองว่ายังมีการจับกุมช้าเกินไป เพราะ คนร้ายอาจก่อเหตุซ้ำอีก พร้อมกับ เตือนชาวต่างชาติที่กำลังจะเข้ามาในประเทศไทย  หากมีการก่อเหตุร้ายในประเทศไทย ตำรวจก็มีข้อมูล และสามารถตาม จับกุมได้ในทันที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาหนัก 2 ข้อหา และทางด้านเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews