"หมอเหรียญทอง" พูดถึงการรื้อร้านค้ารุกล้ำผิดกฎหมาย ซอยแจ้งวัฒนะ 14

29 กันยายน 2564

เหรียญทอง แน่นหนา หรือ เหรียญทองน้อย ศิษย์หัวลำโพง ประกาศถึงผู้พักอาศัยในซอยแจ้งวัฒนะ 14 เรื่องรื้อร้านค้ารุกล้ำผิดกฎหมาย

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา ไอ้ตี๋หัวลำโพง (หรือ เหรียญทองน้อย ศิษย์หัวลำโพง) หัวโจกพลังแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความระบุ 

ประกาศถึงผู้พักอาศัยในซอยแจ้งวัฒนะ 14 ความว่า แนวตะเข็บที่ดินส่วนบุคคลริมซอยแจ้งวัฒนะ 14 เป็นที่ดินส่วนบุคคลของบริษัท รวมมิตรวิศวกรรม จำกัด ไม่ใช่ทางเท้าสาธารณะ แต่มีร้านค้ารุกล้ำผิดกฎหมายมาช้านานกว่า 30 ปีนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมจากอับอากาศให้เป็นโปร่งอากาศ ทั้งนี้เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาด โดย รพ.มงกุฎวัฒนะได้รื้อถอนเพิงร้านค้าผิดกฎหมายริมซอยแจ้งวัฒนะ 14 หน้า รพ.สนามพลังแผ่นดิน เมื่อกลางเดือน ก.ย.64 ตามที่ผมโพสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ..."พูดจริง ทำจริง เลือกเหรียญทอง เบอร์ 0 นะจ๊ะ

หมอเหรียญทอง

ผมได้พบความจริงจากการรื้อร้านค้าอีกว่า ร้านค้าเหล่านี้ได้รุกล้ำด้วยการขยายร้านของตนลงบนพื้นถนนซอยแจ้งวัฒนะ 14 อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ร้านกว้างขวาง ดังนั้น รพ.มงกุฎวัฒนะจะสกัดพื้นร้านค้าที่รุกล้ำถนนซอยแจ้งวัฒนะ 14 เพื่อให้ถนนซอยแจ้งวัฒนะกว้างขึ้นอีก 1 เมตรให้การสัญจรบนถนนกว้างขึ้น แล้วทำฝาบ่อระบายน้ำที่ทรุดโทรมเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรให้ใหม่ ...ตัดสินใจเลือก เหรียญทอง เบอร์ 0 กันแล้วหรือยังล่ะจ๊ะ

ในโอกาสนี้ผมจึงขอให้ประชาชนผู้พักอาศัยในซอยแจ้งวัฒนะ 14(เมืองทอง 1) ทราบทั่วกันในสิ่งที่ถูกต้องทั่วกันว่า การรื้อร้านค้าผิดกฎหมายกว่า 30 ปีโดย รพ.มงกุฎวัฒนะนั้นไม่ได้รับความร่วมมือหรือการช่วยเหลือใดๆจากผู้มีอำนาจในท้องที่แต่อย่างใด ระหว่างรื้อถอน ผมและพลพรรคหวาดกลัวมาเฟียกุ๊ยหลักสี่จนส้นตีนสั่นกวาดเก็บขยะริมซอย หน้า รพ.สนามจนสะอาดเกลี้ยง ก็รู้สึกดีใจที่เขตหลักสี่ไม่มีมาเฟียไว้ ณ ที่นี้ครับ
ด้วยควาปรารถนาดีต่อส่วนรวม

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ไอ้ตี๋หัวลำโพง(หรือ เหรียญทองน้อย ศิษย์หัวลำโพง ) หัวโจกพลังแผ่นดิน
29 ก.ย.64 เวลา 8.57 น.

 

หมอเหรียญทอง

รพ.มงกุฎวัฒนะเข้าร่วมในสงครามโควิดโดยจัดกำลังเข้าปฏิบัติการ รพ.สนาม 6 แห่ง เป็นปฏิบัติการเครือข่าย รพ.สนามขั้นสมบูรณ์ รวดเร็ว ทันสถานการณ์ผู้ป่วยจำนวนมาก ตั้งแต่เดือน เม.ย.64 จนเพิ่มสูงสุดใน ส.ค.64 แล้วเริ่มลดลงตามที่ปรากฎในปัจจุบัน 
ผมตั้งใจว่า ‘มาเร็ว เลิกเร็ว’ แต่ผมยังเลิก รพ.สนามพลังแผ่นดิน และ รพ.สนามใต้ร่มพระบารมี ในสังกัด รพ.มงกุฎวัฒนะไม่ได้นะครับ ถึงแม้สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดจะดีขึ้นอย่างมากก็ตาม เพราะยังมีผู้ป่วยโควิดทั้งที่ตรวจพบโดย รพ.มงกุฎวัฒนะเองและที่ส่งต่อมาจาก รพ.ต่างๆ และส่งต่อมาจากแค๊มป์ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์พักคอย ฯลฯ แม้จะมีจำนวนลดน้อยลงแล้วแต่ก็ยังมีผู้ป่วยโควิดทุกวันทำให้มียอดผู้ป่วยโควิดสะสมและครองเตียงใน รพ.สนามทั้ง 2 แห่งมากกว่า 400 เตียงต่อวัน…แม้งานจะเบาขึ้นจากวันละมากกว่า 1,500 เตียงก็ตาม แต่ก็ไม่สบายนะครับ พวกเรายังเลิกไม่ได้ อีกทั้งผู้ป่วยโควิดมากกว่า 400 เตียงก็เทียบเท่าสถานการณ์ระบาดระลอก 3 ในระยะเริ่มต้นเมื่อเดือน เม.ย.64 ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะจัดกำลังเข้าปฏิบัติการ

รพ.สนามพลังแผ่นดิน และ รพ.สนามใต้ร่มพระบารมี ยังต้องทำหน้าที่เป็น ‘รพ.คู่บัดดี้’ ให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะซึ่งเป็น ‘รพ.เดี่ยว’ ไม่มีเครือข่าย ต้องพึ่งตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้ รพ.มงกุฎวัฒนะสามารถทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด (Non-COVID) โดย รพ.สนามทั้ง 2 แห่ง จะทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยโควิด (COVID) เอง ทั้งนี้เพื่อการคัดแยกไม่ให้ปะปนกันใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งตลอดระยะเวลานานกว่า 5 เดือนของการระบาดระลอก 3 และระลอก 4 รพ.มงกุฎวัฒนะสามารถทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด (Non-COVID)ได้อย่างปกติ ไม่ส่งผลกระทบผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด (Non-COVID)แต่อย่างใด โดยผู้ป่วยโควิดจะรักษาที่ รพ.สนาม ส่วนผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิด (Non-COVID) จะรักษาที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ...แยกจากกัน ไม่ปะปนกันครับ...เป็นระบบ ‘รพ.คู่บัดดี้’ หันหลังชนกัน สู้กับปัญหาคนละด้านไงล่ะครับ
อีกทั้ง รพ.สนามพลังแผ่นดินเป็น รพ.สนามระดับ 3 ที่มีขีดความสามารถทางการการแพทย์เฉพาะทาง จึงมีผู้ป่วยโควิดที่ส่งต่อมารักษาด้วยการแพทย์เฉพาะสาขา เช่น การผ่าตัด ทำคลอด การฟอกเลือดล้างไต การรักษาหัวใจและหลอดเลือดด้วยหัตถการพิเศษต่างๆทั้งหัตถการสวนหัวใจหลอดเลือด หัตถการทางสรีระวิทยะหัวใจ(Cardiac Electrophysiology) การตรวจรังสีวินิจฉัยด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สำหรับผู้ป่วยโควิด ตลอดจนการรักษาอาการวิกฤตโดยอายุรแพทย์เวชศาสตร์วิกฤต(Critical Care) ซึ่งผู้ป่วยโควิดเหล่านี้ส่งต่อมาจาก รพ.ต่างๆทั้งในกรุงเทพและปริมณฑลชายขอมกรุงเทพ 
ดังนั้น รพ.สนามพลังแผ่นดินจึงเป็น ‘หน่วยหรือส่วนที่เหลือไว้ปะทะ’ ของสงครามโควิดตามที่ผมเคยโพสต์ไว้ และคาดว่าจะปิดทำการเป็นหน่วยสุดท้ายในกลางปีหน้า (พ.ศ.2565) หรือหากการปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่(Herd Immunization)ด้วยวัคซีนรวดเร็วเห็นผล โดยจะทยอยลดกำลัง รพ.สนามพลังแผ่นดิน คงเหลือแค่ ‘หน่วยไอ ซี ยู และศัลยกรรมสนาม’ เท่านั้น การดำเนินการทั้งหมดจะเป็นไปอย่างเป็นลำดับขั้นครับ...ท่านที่มีปัญหาโควิดติดต่อเข้ารับการรักษาโดยตรงที่ รพ.มงกุฎวัฒนะได้ตามปกติครับ
จากนี้ไปผมต้องเดินหน้างานก่อสร้างอาคารศูนย์ผู้ป่วยอาการหนักและโรคซับซ้อนเพื่อให้สามารถพร้อมรับผู้ป่วยจำนวนมากจากทุกสิทธิรักษาในปลายปีหน้า 65 ดังนั้นจะห่างเหินจากมิตรรักทั้งหลายนะจ๊ะ...จุ๊บๆครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews