ปภ.เตือน 5 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน

สำหรับกรณีของอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2564 นี้ ยังคงต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลายๆ พื้นที่โดนอิทธิพลของ พายุเตี้ยนหมู่ หรือ พายุดีเปรสชั่นเตี้ยนหมู่ ซึ่งทำให้พื้นที่เคยถูกน้ำท่วมฉับพลัน อีกทั้งยังมีมวลน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่เอ่อล้น โดยมีการคาดการณ์ว่า หากมีพายุมาอีกลูก อาจส่งผลทำให้ เขื่อนแตก ก็เป็นได้

ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. ได้ออกหนังสือด่วน เตือน 5 จังหวัด ให้เฝ้าระวังน้ำท่วม จากการระบายน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งทาง ปภ. ได้ส่งหนังสือดังกล่าวถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย ผู้อำนวยการจังหวัด และชาวบ้านในพื้นที่จังหวัด 1. ลพบุรี 2. สระบุรี 3. พระนครศรีอยุธยา 4. ปทุมธานี และ 5. นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับมือผลกระทบจากการที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำ

 

โดยเนื้อหาใจความได้ระบุรายละเอียดถึงเนื้อหาการเตรียมตัว เฝ้าระวังน้ำท่วมจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ว่า ด้วย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง หรือ กอปภ.ก. ได้รับแจ้งจาก กรมชลประทาน ว่าในช่วงที่ผ่านมาพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" และหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนาแน่น และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่

 

โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำที่ไหลลง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2564 รวมจำนวน 515 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากยังคงระบายน้ำในอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเต็มอ่างในวันที่ 30 กันยายน 2564

- หนุ่มลองสวดมนต์ ตามที่นายกแนะนำ หลังผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เห็นผลทันตา

- ทัวร์ลง ดร.เสรี หลังออกมาแก้ต่างแทน "ลุงตู่" ปมสวดมนต์ไล่พายุ

- สรยุทธ พูดแทนใจ คนจองวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งที่จ่ายเงินเองแท้ๆ

ดังนั้น เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลลงเขื่อนได้โดยไม่ทำให้น้ำเต็มเขื่อน กรมชลประทาน จึงจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเป็น 3,456 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้ไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท - ป่าสัก แล้วจะควบคุมให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตราไม่เกิน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

 

จากสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชมนอกคันกั้นน้ำ บริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นดังกล่าว จะไม่กระทบกับพื้นที่บริเวณตั้งแต่ท้ายน้ำวัดสะตือ ไปจนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews