เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ย้ำเงื่อนไขสำคัญ ต้องจองผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น

25 กันยายน 2564

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ย้ำเงื่อนไขสำคัญ ต้องจองผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น ไม่สามารถจองผ่านเอเจนซี่ได้แล้ว!!

 สืบเนื่องมาจากกรณีมีมติ ครม. เห็นชอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของ "โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" โดยเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการ เป็นวันที่ 28 ก.พ.65 และให้ประชาชนสมัครใช้สิทธิ์ได้ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.65 พร้อมให้ ททท.เร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 64 เว็บไซต์เราเที่ยวด้วยกัน ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์แล้วจำนวน 2 ล้านสิทธิ์ โดยโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 จะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565  สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส3 มีสิทธิให้เปิดจองที่พัก2ล้านสิทธิ ส่วนการจองตั๋วเครื่องบินยังคงมีสิทธิคงเหลืออยู่ 1,263,132สิทธิ

สำหรับคุณสมบัติของบุคคลที่สามารถเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส3”

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ย้ำเงื่อนไขสำคัญ ต้องจองผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น

- มีบัตรประจำตัวประชาชนเป็นบุคคลสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
- ประชาชนจะได้รับสิทธิเมื่อลงทะเบียนสำเร็จ และใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยว ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น จังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ
- ประชาชนที่เคย ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ใหม่สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้


-เช็กสิทธิ ม.33-คนละครึ่ง เตรียมรับอีก 4,000 สัปดาห์หน้า
-ศธ.ย้ำไม่บังคับ รร. "เปิดเทอม" เต็มรูปแบบพร้อมกัน
-"ปภ." เตือน 10 จังหวัด ให้ขนของขึ้นที่สูงด่วน!

และหนึ่งเงื่อนไขสำคัญในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ย้ำมาว่า โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3" ประชาชนที่ได้รับสิทธิต้องจองที่พักผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น ไม่มีการให้จองผ่านเอเจนซี่อย่าง Agoda , Traveloka อย่างที่เคยทำในโครงการ เราเที่ยวด้วยกันเฟสก่อน ๆแล้ว

สำหรับประชาชนที่เคยลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้ โดยเริ่มจองโรงแรมที่พักตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 64 - 23 ม.ค. 65

 

เราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ย้ำเงื่อนไขสำคัญ ต้องจองผ่านโรงแรมโดยตรงเท่านั้น

 ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews