"หมอธีระเผย"อาการคงค้างจากโควิด ต้องรักษา ไม่งั้น ส่งผลกระทบระยะยาวแน่นอน

17 กันยายน 2564

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ถึงสถานการณ์โควิด-19 และอาการคงค้างจากโควิด-19

จากกรณี รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า 

...สถานการณ์ของไทยเรา

จำนวนติดเชื้อใหม่เมื่อวานนี้ยังคงสูงเป็นอันดับ 10 ของโลกอย่างต่อเนื่อง

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตใหม่นั้นสูงเป็นอันดับ 13

...ผลลัพธ์จากนโยบายกล่องทราย และ 7+7

ดังที่เคยเล่าให้ฟังแล้วว่า หลังดำเนินการตามนโยบายไป เราพอจะคาดการณ์ได้ล่วงหน้าตามหลักวิชาการว่า การระบาดในพื้นที่ต้องทวีความรุนแรงขึ้น และมักเห็นชัดเจนราว 6-8 สัปดาห์

ภูเก็ตเริ่มไปเมื่อ 1 กรกฎาคม ส่วน 7+7 เริ่มไปเมื่อ 15 กรกฎาคม

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่บอกล่วงหน้าว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในพื้นที่กล่องทรายได้ราวช่วงปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

หมอธีระ อาการคงค้างจากโควิด-19 ต้องรักษา ไม่งั้น ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตระยะยาวแน่นอน

หลักการจัดการการระบาดที่หนักขึ้นดังที่เห็นนั้นคือ ลดการเคลื่อนไหวของคน ลดการพบปะติดต่อและใกล้ชิดกัน ตรวจให้มาก ปูพรมให้ครอบคลุม นำผู้ติดเชื้อไปดูแลรักษา แยกกักตัวคนสัมผัสความเสี่ยงออกมาจากชุมชนและครอบครัวเพื่อลดโอกาสแพร่ เพราะโอกาสที่จะแพร่ได้มากที่สุดคือช่วงที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการจนถึงมีอาการช่วงวันแรกๆ การติดเชื้อโควิดนั้นสามารถแพร่ได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการราว 2-3 วัน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้แพร่ไปได้เยอะโดยไม่รู้ตัวทั้งคนติดเชื้อและคนรับเชื้อ หากไม่ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดเสมอ

การจะไปฝากความหวังไว้ที่วัคซ๊นเพื่อจัดการการระบาดนั้น อยากเตือนว่าไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะชัดเจนว่า ฉีดแล้วก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ และนำเชื้อไปแพร่ต่อได้ ประโยชน์ที่ได้จากวัคซีนเป็นเพียงการลดโอกาสป่วย ป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้การันตี 100%

ดังนั้นสิ่งที่เป็นห่วงคือ หากปล่อยให้มีการติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ แม้การตายจะไม่มาก หรือลดลงจากการฉีดวัคซีน แต่ผู้ที่ติดเชื้อก็จะเกิดผลกระทบตามมาระยะยาวได้ เช่น ภาวะอาการคงค้างจากโควิด ที่เรียกว่า Long COVID นั่นเอง

จากที่เคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ว่า งานวิจัยหลากหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าโอกาสเกิดภาวะอาการคงค้าง Long COVID นี้มีสูงทีเดียว ฝั่งตะวันตกมีรายงานได้สูงถึงกว่า 40% ในขณะที่ของจีน พบว่ามีถึง 68% ที่มีอาการคงค้าง ณ 6 เดือน และมีถึง 49% ที่มีอาการคงค้าง ณ 12 เดือน

อาการคงค้างมีได้มากมายหลายแบบ ตั้งแต่เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก มีปัญหาเรื่องความคิดความจำสมาธิ เครียด ซึมเศร้า ชัก ปวดท้อง ท้องเสีย เบื่ออาหาร หรือภาวะอื่นๆ ที่รุนแรง เช่น ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

ดังนั้นการไม่ติดเชื้อย่อมจะดีที่สุด

ในต่างประเทศมีการเตรียมระบบสาธารณสุขเพื่อช่วยให้คำปรึกษา และดูแลรักษาภาวะ Long COVID อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ประเทศไทยจำเป็นต้องพิจารณาดำเนินการเช่นกัน เพราะจำนวนเคสติดเชื้อกว่าล้านคน ยังไงต้องมีผู้ที่มีภาวะ Long COVID อย่างแน่นอน และหากไม่ได้รับการดูแล ก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และผลิตภาพในการทำงานด้านต่างๆ

ที่หยิบยกประเด็นนี้มา เพราะต้องการชี้ให้เห็นอีกด้านหนึ่งของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาถัดจากนี้ไป ที่มีความพยายามจะผลักดันนโยบายเปิดการท่องเที่ยวมากมายหลายจังหวัด ตลอดจนแผนในการเปิดประเทศ ในขณะที่สถานการณ์ระบาดยังรุนแรง กระจายไปทั่ว ก็ย่อมจะคาดการณ์ได้ว่าจะมีการติดเชื้อแพร่เชื้อในคนจำนวนมากขึ้นดังที่ปรากฏให้เห็นกันจากบทเรียนกล่องทรายและ 7+7

จึงขอให้พิจารณาให้ดี

มิฉะนั้นอาจเห็นเหมือนหนังม้วนเดิมเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่จะเกิดผลกระทบหนักกว่าเดิม เพราะสถานการณ์พื้นฐานทั้งเรื่องการระบาดตอนนี้ที่หนักกว่าปีก่อน และทรัพยากร ต้นทุนของประชาชนร่อยหรอลงไปมาก การตัดสินใจนโยบายจึงไม่สามารถพลาดได้อีกแล้ว

ปีก่อนเป็น Blue คริสตมาสและปีใหม่ แต่หากหนักกว่าเดิมจะเป็น Black จากผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมพร้อมๆ กัน

...ชะลอการเปิดการท่องเที่ยวหลากหลายจังหวัด และการเปิดประเทศไปก่อนเถิดครับ...

ขอให้ประชาชนอย่างพวกเราดำรงชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ

ใส่หน้ากาก สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า

วางแผนเรื่องการเงินการใช้จ่าย และการลงทุนให้ดี และระวังเรื่องมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ

เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายระมัดระวัง เราจะประคับประคองกันไปอย่างปลอดภัย

ด้วยรักและห่วงใย

หมอธีระ อาการคงค้างจากโควิด-19 ต้องรักษา ไม่งั้น ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตระยะยาวแน่นอน

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews