เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน ยังวางใจซิโนแวคสั่งเพิ่ม 12 ล้านโดส

17 สิงหาคม 2564

ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบ แผนจัดหาจัดซื้อวัคซีน ยังวางใจซิโนแวคสั่งเพิ่ม 12 ล้านโดส จองซื้อวัคซีนไฟเซอร์อีก 10 ล้านโดส

เห็นทีว่าวัคซีนที่ดีที่สุดคงจะเป็นทางรอดเดียวที่ทำให้ประชาชนคนไทยรอดพ้นจากมัจจุราชที่ได้ชื่อว่า โควิด 19 เนื่องจากแม้วัคซีนที่ดีนั้นจะไม่การันตีว่าป้องกันการติดเชื้อได้ แต่วัคซีนสามารถลดอัตราการเสียชีวิตลงได้อย่างดี ยกตัวอย่างชาติสหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาที่ก่อนหน้านี้เกิดการระบาดอย่างหนักในทุกๆ รัฐ ทำให้ต้องสูญเสียพลเมืองหลักแสนรายต่อวัน แต่ล่าสุดสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้เหลือเพียงหลักร้อย

เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ประเทศไทยยังคงต้องรับมือกับทุกๆ ทางที่เกี่ยวกับโรคระบาดนี้ เนื่องจากยังมีอัตราผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นมากในแต่ละวัน ซึ่งล่าสุดพบว่าผู้ป่วยโควิดล่าสุดเพิ่มขึ้นอีก 20,128 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 239 ราย จนล่าสุดมีผู้ป่วยสะสมแตะ 1 ล้านรายแล้ว ซึ่งหลายๆ นักวิชาการลงความเห็นว่าเดือนสิงหานี้น่าจะทะลุมากกว่า 1.5 ล้านรายภายในครึ่งเดือน

โควิด-19


ดังนั้นวัคซีนจึงเป็นทางออกเดียว ล่าสุดทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค.ได้เปิดเผยถึงแผนการสั่งวัคซีนเข้าประเทศไทย ซึ่งที่ประชุม ศบค.เห็นชอบ แผนจัดหาจัดซื้อวัคซีน ที่เสนอโดย กระทรวงสาธารณสุข ที่จะสั่งนำเข้าวัคซีนในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2564 เพื่อนำมาใช้ในช่วงที่ระยะเวลาที่มีวัคซีนจำกัดเพิ่มเติม เนื่องจากปัญหากลายพันธุ์เดลตา ทำให้วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้น้อย จึงควรเร่งการฉีดวัคซีนเพื่อเพิ่มความครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย 

เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน
เป้าหมายของ ศบค. ลงความเห็นว่า ต้องได้ 100 โดส ใน พ.ศ.2564 ซึ่งได้มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จองซื้อวัคซีนไฟเซอร์ เพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดส พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้เจรจาจัดหาวัคซีนอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวน 10 ล้านโดส ภายในปี 2564 รวมไปถึงได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม จัดหาวัคซีนซิโนแวคเข้ามาเพิ่มเติมอีกจำนวน 12 ล้านโดส 


เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน ยังวางใจซิโนแวคสั่งเพิ่ม 12 ล้านโดส

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

โดยรายละเอียดความคืบหน้าการสั่งนำเข้าวัคซีนยี่ห้อต่างๆ มีดังต่อไปนี้ 
1. สั่งจอง วัคซีนแอสตราเซนเนกา (AstraZeneca) จำนวน 61 ล้านโดส ซึ่งได้มีส่งมอบแล้ว 14.7 ล้านโดส เดือนละ 5 ล้านโดสขึ้นไป จนครบ 61 ล้านโดส อีกทั้งยังมี วัคซีนบริจาคอีก 1.46 ล้านโดส

เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน

2. สั่งซื้อ วัคซีนซิโนแวค (Sinovac) จำนวน 13.4 ล้านโดส เหลือรับเพิ่ม 5.7 ล้านโดส (ในเดือน ส.ค. - ก.ย.) อีกทั้งยังมี วัคซีนบริจาคอีก 1 ล้านโดส
3. สั่งจอง วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 20 ล้านโดส แต่ยังไม่ได้มีการส่งมอบ ซึ่งมีเพียงการรับบริจาค 2.5 ล้านโดส แบ่งเป็น 2 ล็อต ล็อตแรกได้รับมาแล้ว 1.5 ล้านโดส ส่วนล็อตที่ 2 อีก 1 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งในไตรมาส 4


4. การสั่งนำเข้า วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) นั้นดูท่าว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อบริษัทขอเลื่อนลงนามสัญญา เนื่องด้วยพบปัญหาการผลิต
5. การสั่งจอง วัคซีนสปุตนิก (Sputnik) นั้นยังไม่คืบหน้า เนื่องจากตั้งรอขึ้นทะเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


6. การนำเข้า วัคซีนซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ซึ่งทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้นำเข้าและส่งมอบแล้วจำนวน 5 ล้านโดส
7. การสั่งจองวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งทางองค์การเภสัชฯ/สภากาชาดไทย มีแผนนำเข้าจำนวน 5 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งมอบปลายปี 2564 ซื้อวัคซีนเพิ่มอีกจำนวน 32 ล้านโดส


อย่างไร็ตาม แผนการการจัดหาวัคซีนทั้งสิ้น 32 ล้านโดส อยู่ภายใต้การดำเนินการของ กรมควบคุมโรค โดยการมอบอำนาจให้อธิบดีกรมควบคุมโรคการลงนามในสัญญาจองซื้อไฟเซอร์ เพิ่ม 10 ล้านโดสนั้น ต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและผ่านการเห็นชอบก่อน

เปิดแผน ศบค.นำเข้าวัคซีน