หมอ แนะ หญิงตั้งครรภ์ อย่าสละวัคซีน mRna ให้หมอ หากติดเสี่ยงอาการรุนแรงกว่า

12 สิงหาคม 2564

เพจใกล้มิตรชิดหมอ ได้ออกมาโพสต์ถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ เรื่องแนวคิดสละไม่ฉีด mRNA เพื่อให้บุคลากรด่านหน้าฉีดกันครบก่อน

โพสต์นี้อยากฝากถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ #หากมีโอกาสเข้าถึงวัคซีน mRNA นะคะ ตอนนี้มีหลายคนที่มีแนวคิดว่าจะยอมไม่ฉีด mRNA เพราะ อยากให้บุคลากรด่านหน้าฉีดกันครบก่อน 

ต้องขออนุญาตทำความเข้าใจคุณแม่ตั้งครรภ์ดังนี้นะคะ 

จำนวนวัคซีน 1.5 ล้านโดสแรกที่ได้บริจาคมา เพียงพอต่อบุคลากรด่านหน้าทั้งหมดแน่นอนค่ะถ้าได้รับการจัดสรรอย่างเที่ยงธรรมและทั่วถึง และบุคลากรส่วนหนึ่ง (ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมาก) ฉีด az ล่วงหน้าไปแล้ว รวมถึงหมอด้วย

ดังนั้น หากคุณแม่มีโอกาสเข้าถึง mRNA vaccine ขอความกรุณาอย่าปล่อยโอกาสนั้นนะคะ #เพราะถึงคุณแม่จะปฏิเสธไม่ฉีด #วัคซีนโดสนั้นก็ไม่ได้ถูกเพิ่มมาที่ด่านหน้าอยู่ดีค่ะ วัคซีนที่มาถึงด่านหน้าถูกจัดสรรและกำหนดไว้แล้ว 

*** #การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ #และมีข้อมูลมากที่สุดเกี่ยวกับความปลอดภัยในคนท้อง #เป็นสิ่งที่พวกเราสูติแพทย์ทุกคนรอคอยมาตลอดค่ะ***

เนื่องในวันแม่นี้ ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนที่เหมาะสมไวไว และปลอดภัยกันทุกครอบครัวนะคะ

หมอสูติ

 

 

ภายหลังทางเพจได้ออกมาโพสต์อีกครั้งว่า... มี inbox จากคุณแม่เข้ามามากมายว่าควรจะตัดสินใจเรื่องการฉีดวัคซีนอย่างไร ก่อนอื่นทบทวน platform ของวัคซีนแต่ละตัวที่มีใช้ในประเทศไทย 

Sinovac และ Sinopharm เป็นวัคซีนกลุ่มเชื้อตาย 
Astrazeneca เป็นวัคซีนกลุ่ม viral vector
Pfizer เป็นวัคซีนกลุ่ม mRNA คะ 

วัคซีนที่มีข้อมูลเรื่องความปลอดภัยในคนท้องมากที่สุด คือ mRNA vaccine ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังไม่พบว่ามี adverse events ที่เป็นผลจากวัคซีนต่อการตั้งครรภ์ ทั้งในแง่การแท้ง การที่ทารกเสียชีวิตในครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ความพิการของทารกในครรภ์ ซึ่งแน่นอนว่า เรายังต้องติดตามผลในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับในประเทศที่มีทางเลือกของวัคซีนบางประเทศกำหนดให้คนท้องรับวัคซีนชนิด mRNA เท่านั้น ด้วยเหตุผลข้างต้น คือ มีข้อมูลเชิงประจักษ์มากที่สุด 

ส่วนในประเทศที่เป็น low resource setting แบบประเทศไทย และการเข้าถึงวัคซีนมีอย่างจำกัด 

รวมถึงไม่ได้มีแนวทางการจัดสรรวัคซีนที่ชัดเจนโปร่งใสตรวจสอบได้ 

ผู้ปฏิบัติงานไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำคนท้อง ผู้บริหารไม่ได้ให้ความสำคัญในการทำความเข้าใจกับผู้ปฏิบัติงานในส่วนนี้ รวมถึงไม่ได้เน้นความสำคัญของคนท้อง หลายคนจึงได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนขึ้นกับพื้นฐานความเข้าใจของคนหน้างานเป็นหลัก 

>>> ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้อำนาจการเลือกวัคซีนไม่ได้อยู่ในมือคุณแม่ตั้งครรภ์นะคะ หมอจึงไม่สามารถตอบคำถามที่คุณแม่ถามได้ ว่าควรเลือกฉีดวัคซีนอะไร เพราะหมอไม่ทราบเลยว่า คุณแม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนอะไรได้บ้าง 

จึงขอให้แนวทางในการพิจารณาตัดสินใจฉีดวัคซีนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณนี้ค่ะ 

#คำถามว่าควรฉีดหรือเปล่า 
มีคำตอบเดียวค่ะ ว่า #ควรฉีด เหตุผลเพราะหากคนท้องติดเชื้อ จะมีโอกาสที่จะมีอาการจะรุนแรงกว่าคนที่ไม่ท้อง 

#ฉีดอะไรดี 
ในเมื่อตอนนี้การกำหนดชนิดวัคซีนไม่ได้อยู่ในมือของคุณแม่ ก็ต้องลุ้นว่าในพื้นที่ของคุณแม่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนแบบไหน (ซึ่งทำไมไม่ทำให้เหมือนกันทั้งประเทศ??? หมอก็ไม่สามารถตอบได้ ) 

แม้ว่า mRNA vaccine จะเป็นวัคซีนที่มีข้อมูลความปลอดภัยมากที่สุด และแนะนำในคนท้อง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น จะรอ mRNA vaccine หรือเปล่า หมอก็ไม่สามารถตัดสินใจให้ได้เลยค่ะ 

ถ้าหากจะแนะนำ หมออยากให้คุณแม่ประเมินตนเอง ชั่งโอกาส 2 อย่าง 
1) โอกาสติดเชื้อของคุณแม่มีมากน้อยแค่ไหน 
2) โอกาสเข้าถึงวัคซีน mRNA vaccine มีมากน้อยแค่ไหน 

ถ้าโอกาสติดเชื้อมาก แต่โอกาสเข้าถึง mRNA vaccine น้อย การรอก็อาจจะมีความเสี่ยง 

แต่ถ้าโอกาสติดเชื้อน้อย แต่โอกาสเข้าถึง mRNA vaccine มาก ก็อาจจะคุ้มที่จะรอ 

ปัญหาคือ คุณแม่ประเมินได้แม่นยำขนาดไหน ตรงนี้ไม่มีใครตอบได้ 

ในส่วนของคนที่เสี่ยงสูง และต้องการฉีดวัคซีนอื่นๆ ที่ไม่ใช่ mRNA vaccine หมอก็ไม่สามารถตอบได้ว่า วัคซีนที่ฉีดมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน (ลำพังแค่ข้อมูลว่าคนนั้นคนนี้ไปฉีดมาแล้วไม่มีปัญหา คงไม่สามารถนำมาเป็น recommendation ในทางคลินิกได้) หมอคงตอบได้แค่ #ตามทฤษฎีเท่านั้น ว่าโอกาสมีปัญหาน้อยทั้งวัคซีนเชื้อตายและวัคซีนที่เป็น viral vector เพราะยังไม่เห็นข้อมูลตีพิมพ์ที่มี n จำนวนมากเหมือนกลุ่ม mRNA 

สำหรับอีกประเด็น คือ การฉีดวัคซีนแบบไขว้ 

ในส่วนของประสิทธิภาพมีรายงานจากต่างประเทศบ้างเหมือนกันในคนที่บังเอิญฉีดวัคซีนผิดค่ะ โดยฉีด viral vector เข็มแรก และวัคซีนเชื้อตายเข็มสอง ผลการศึกษาพบว่าประสิทธิภาพการกระตุ้นภูมิคุ้มกันดีกว่าฉีดวัคซีนชนิดเดียวกันค่ะ ซึ่งรายงานนี้ทำในคนทั่วไป ยังไม่มีรายงานในคนท้อง

ส่วนข้อมูลด้านความปลอดภัย หมอไม่มีข้อมูลในส่วนนี้จริงๆ ค่ะ ว่าการฉีดไขว้จะมีความปลอดภัยแค่ไหนในคนท้อง จึงไม่สามารถตอบได้ และคิดว่าตอนนี้ก็คงยังไม่มีใครตอบได้ ก็อาจจะน่าเศร้าหน่อยที่จะต้องบอกว่าเราอาจจะได้ข้อมูลเหล่านี้โดยที่มีคุณแม่ทุกคนเป็นกลุ่มทดลองนี่แหละค่ะ #เขียนไปก็เจ็บใจไปนะคะ เจ็บใจกับการที่เราต้องถูกบีบให้ต้องมาตกอยู่ในสภาพจำยอมแบบนี้ 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณแม่จะตัดสินใจอย่างไร ก็คงไม่มีทางไหนผิด ทางไหนถูก ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรอย่าโทษตัวเอง หมอเชื่อว่าทุกการตัดสินใจผ่านการไตร่ตรองอย่างดีแล้ว

ถ้าจะโทษ ก็โทษระบบการบริหารจัดการที่บีบคั้นเราให้ต้องจนตรอกและมีทางเลือกจำกัด ซึ่งหมอเชื่อเสมอว่าหากเราช่วยกันส่งเสียงก็อาจจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงทิศทางสังคมได้ไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยๆ ในวันนี้สิ่งที่หมอเขียนในเพจ ก็ทำให้หลายๆ คนหันมาเห็นมากขึ้นว่าคนท้องก็เป็นอีกกลุ่มที่มีความเสี่ยงแต่ก็มีปัญหาเข้าถึงวัคซีนได้ยากค่ะ

หมอสูติ

ขอบคุณ ใกล้มิตรชิดหมอ