สั่งย้าย รีสอร์ทแพหรู เมืองกาญจน์ ภายใน 30 วัน หลังพบบุกรุกเขตอุทยานฯ

06 สิงหาคม 2564

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ปิดประกาศคำสั่งให้เจ้าของรีสอร์ทแพ ในบริเวณแม่น้ำแควน้อย ให้ทำการเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าว ออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 30 วันนับแต่วันติดป้าย

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ปิดประกาศคำสั่งให้เจ้าของรีสอร์ทแพ ในบริเวณแม่น้ำแควน้อย ให้ทำการเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าว ออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 30 วันนับแต่วันติดป้าย

วันที่ 6 สิงหาคม 2564 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย  นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค นายจิรายุ พูลทวี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปปิดประกาศคำสั่งให้เจ้าของรีสอร์ทแพไทรโยคโฟลทเทล ในบริเวณแม่น้ำแควน้อย ท้องที่บ้านไทรโยคใหญ่ หมู่ที่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ให้ทำการเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าว ออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ภายใน 30 วันนับแต่วันติดป้ายประกาศคำสั่งนี้
 

สั่งย้าย รีสอร์ทแพหรู เมืองกาญจน์ ภายใน 30 วัน
 

โดยสาเหตุการติดป้ายคำสั่งให้เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าว เกิดจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้ทำการตรวจยึดรีสอร์ทแพดังกล่าวและแจ้งข้อหาในข้อหา “ก่อสร้าง และยึดถือครอบครอง ที่ดิน และแม่น้ำ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคโดยมิได้รับอนุญาต” ส่งดำเนินคดี ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 อัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้องเพราะขาดเจตนาการกระทำผิด ทำให้คดีอาญายุติไป โดยห้ามมิให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับบุคคลนั้นอีก เว้นแต่จะได้พยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147 สำหรับคดีปกครองศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เคลื่อนย้ายรีสอร์แพดังกล่าว ออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อย ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี แต่เจ้าของแพไม่อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด คดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และศาลปกครองกลางได้มีหนังสือที่ 52/2564 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 รับรองคดีถึงที่สุดในคดีนี้ด้วย

นายนิพนธ์ฯ เห็นว่าถึงแม้ในคดีนี้อัยการจังหวัดกาญจนบุรี จะมีคำสั่งไม่ฟ้องเพราะขาดเจตนากระทำผิดก็ตาม แต่รีสอร์ทแพดังกล่าวก็ยังอยู่ในแม่น้ำแควน้อย ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ประกอบกับศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษาให้เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพออกไปให้พ้นแม่น้ำแควน้อยในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงมีอำนาจในการประกาศคำสั่งให้เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าวไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อยในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ และหากไม่ทำการเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าวภายใน 30 วันแล้ว อุทยานแห่งชาติไทรโยค จะเข้าเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าว และเจ้าของแพจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายให้กับทางราชการเป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท
 

สั่งย้าย รีสอร์ทแพหรู เมืองกาญจน์ ภายใน 30 วัน

อีกทั้งมีความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ตามมาตรา 35 (1) ซึ่งบัญญัติไว้ว่าหากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ที่สั่งให้บุคคลออกจากอุทยานแห่งชาติ หรือให้งดเว้นการกระทำใดๆ หรือให้เคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากอุทยานแห่งชาติ หากไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานแล้วต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และบุคคลนั้นยังต้องระวางโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง นอกจากนี้อาจมีความผิดตาม พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ 2542 มาตรา 3 (15) เป็นความผิดเกี่ยวกับการแสวงหาประโยชน์ จากทรัพยากรธรรมชาติ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่งจะต้องถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ยึดทรัพย์สิน ต่อไปด้วย
 

สั่งย้าย รีสอร์ทแพหรู เมืองกาญจน์ ภายใน 30 วัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews