โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดรับอาสาสมัครฉีดวัคซีนโควิด mRNA “ChulaCov19”

05 สิงหาคม 2564

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดรับอาสาสมัครฉีดวัคซีนโควิด โครงการ ChulaCov19 ชนิด mRNA เพิ่มเติมสำหรับผู้สูงอายุ ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 3-10 ส.ค. และจะเริ่มฉีดปลายเดือนสิงหาคม

จากกรณีที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทดสอบการฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครผู้ผ่านการคัดกรองที่มีสุขภาพดีระยะที่ 1 และต่อเนื่องในระยะที่ 2 ในมนุษย์ครั้งแรก เพื่อดูการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อวัคซีน ChulaCov19 ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล และทีมนักวิจัย เมื่อกลางเดือนมิ.ย.2564 ที่ผ่านมานั้น

ChulaCov19

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2564  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กออกประกาศรับสมัครอาสาสมัครสุขภาพดีสำหรับโครงการ ChulaCov19 vaccine ระยะที่ 1

 

คุณสมบัติ 
- อายุ 56-75 ปี
- ไม่มีโรคประจำตัว
- ไม่เคยติดเชื้อ covid-19
*ไม่เคยได้รับวัคซีน covid-19

 

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจโปรดกรอกข้อมูลเพื่อคัดกรองเบื้องต้นตาม link http://crc.md.chula.ac.th/redcap/surveys/?s=78T7E7T3DR ผู้ที่ผ่านเกณฑ์เบื้องต้นจะได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่โครงการเพื่อคัดกรองการเข้าร่วมโครงการ ระยะเวลาที่เปิดรับสมัคร 3 ส.ค.-10 ส.ค. 2564

ChulaCov19

สำหรับวัคซีน ChulaCov19 เป็นวัคซีนชนิด mRNA เช่นเดียวกับวัคซีนโควิด-19 ของ "ไฟเซอร์" และ "โมเดอร์นา" เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในหลายประเทศ ผลิตโดยสร้างชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจากสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยไม่มีการใช้ตัวเชื้อแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมขนาดจิ๋วนี้เข้าไป จะทำการสร้างเป็นโปรตีนหนาม (Spike Protein) และกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับไวรัสเมื่อไปสัมผัสเชื้อ โดยที่ผ่านมาทางศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการทดลองในลิง และหนู ได้ประสบผลสำเร็จ พบว่า สามารถช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่กระแสเลือดและสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ในระดับสูง จึงนำมาสู่การผลิต และทดสอบทางคลินิกระยะที่ 1ให้กับอาสาสมัครเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2564 เป็นวันแรก โดยแบ่งการทดสอบได้ดังนี้

ChulaCov19

การทดสอบในระยะที่ 1 แบ่งออกเป็นสองกลุ่มอายุ จำนวน 72 คน

กลุ่มแรก เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 18-55 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน

กลุ่มที่สอง เป็นอาสาสมัครผู้ที่มีอายุ 65-75 ปี ทดสอบจำนวน 36 คน