หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

04 สิงหาคม 2564

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง ปฏิเสธทีเดียว7รายการรวด ซึ่งวันนี้เจ้าตัวได้ออกมาไลฟ์สดบอกว่ามีผู้ใหญ่เป็นห่วงโทรมาบอกให้ลดอารมณ์ลง

จากกรณีที่ทางด้าน ตลกชื่อดัง หยอง ลูกหยี ได้ออกมาไลฟ์สดชื่นชมการทำงานของรัฐบาล และทางด้าน หยอง ลูกหยี ก็ได้ประกาศอยู่เคียงข้างรัฐบาล พร้อมบอกให้จัดการฟ้องคนที่มาด่าเสียๆหายๆให้หมด และบอกว่าเห็นใจนายกที่สุดที่ต้องโดนด่าเสียๆหายๆลามปามถึงพ่อถึงแม่ทุกวัน

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

ล่าสุดทางด้าน หยอง ลูกหยี ได้ออกมาไลฟ์สดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เจ้าตัวได้ออกมาไลฟ์สดบอกว่ามีผู้ใหญ่หลายๆท่านที่เป็นห่วงโทรมาบอกให้ลดอารมณ์ลงนิดนึง ในบางครั้งที่ผมไม่สุภาพ ต้องกราบขอโทษจริงๆ มันอาจจะไปกระทบกระทั่งใครบ้างก็ขอโทษ บางทีเราก็ต้องแสดงความรู้ จุดยืนความคิดของเราบ้าง มันไม่มีใครว่าใครหรอก ในการแสดงความคิดเห็น แต่แค่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

วันนี้ผมนั่งดูม็อบมันก็เหตุผลเดิมๆต่อต้านเรื่องวัคซีน การบริหาร มันก็ต้องดูสถานการณ์โลกด้วยนะว่ามันเป็นยังไง บ้านเราควบคุมได้ยัง ไม่ใช่เวลาที่จะมาด่ามาว่า ทุกคนหาทางรอดกันอยู่ บ้านเมืองก็ลำบาก ทำไมต้องไล่ให้นายกลาออก พอลาออกก็เข้าทางการเมืองคนอื่น ที่จะรวมตัวตั้งกันขึ้น รออีกปีเดียวไม่ได้เหรอ เดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้ว แต่เป้าหมายของคนชุมนุมต้องการให้เกิดจราจล ยั่วยุ สร้างปัญหา ทำให้บ้านเมืองมีปัญหา

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

ถ้ารัฐบาลทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้พวกนี้มาด่ามาขว้างระเบิด สาดสี ถ้าทำไรไม่ได้ก็ยอมพวกมันลาออกไปเหอะ ให้คนอื่นมาเป็น ถ้ารัฐบาลไม่จัดการอะไรเลย แล้วจะอยู่ยังไง ประเทศชาติจะเป็นยังไงอะแบบนี้ พวกแพร่เชื้อก็ม็อบไงมีคนออกมายอมรับ ครูบาอาจารย์ผมก็เตือนผมพูดไปแล้วจะดีหรอไปพูดแบบนั้น ผมบอกให้นะไอพวกที่ทัวร์มาลงผมก็เป็นแต่คนเดิมๆเป็นกระบวนการ  ผมไม่จำเป็นต้องหิวแสง อยากดัง อยู่วงการมา 30 ปี ไม่เคยเป็นซุปเปอร์สตาร์แต่งานก็ไม่ขาดหน้าจอ ละคร รายการ ก็มีหมด ใครจะยังไงก็แล้วแต่ ผมจะพูดตามความรู้สึกในเมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

หยอง ลูกหยี กลับตัวกลับใจ ขอโทษหลังไลฟ์สดสาปส่งคนคิดต่าง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews