เงินเข้าแล้ว! ประกันสังคม ผู้ประกันตน ม.33 รับเงินเยียวยาโอนเข้า พร้อมเพย์

04 สิงหาคม 2564

วันนี้ (4 ส.ค) ได้เริ่มมีการโอนเงินให้กับผู้ประกันตนแล้ว รับเงินผ่านช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน

อัพเดทความคืบหน้า การจ่ายเงินเยียวยา ประกันสังคม ผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัดได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 2.นนทบุรี 3.นครปฐม 4.ปทุมธานี 5.สมุทรปราการ 6.สมุทรสาคร 7.อยุธยา 8.ชลบุรี 9.ฉะเชิงเทรา 10.สงขลา 11.นราธิวาส 12.ยะลา 13.ปัตตานี และ 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ 1.ก่อสร้าง 2.ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 3.ศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ 4.กิจกรรม บริการด้านอื่นๆ 5.การขายส่ง-ปลีก ซ่อมยานยนต์ 6.การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 8.กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ 9.ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร


 

ล่าสุดวันนี้ (4 ส.ค) ได้เริ่มมีการโอนเงินให้กับผู้ประกันตนแล้ว รับเงินผ่านช่องทางพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน สามารถเช็คสิทธิที่เว็บไซต์ประกันสังคม https://www.sso.go.th/

โดย ผู้ประกันตน มาตรา 33  รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 7,500 บ. และเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 2,500 บ./คน 
- ในพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด ที่ประกาศก่อน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร  นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา จะได้รับตั้งแต่วันที่ 4 - 6 สิงหาคม 2564 
- ส่วน 3 จังหวัด ที่ประกาศเพิ่มเติม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา จะได้รับตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2564 

ม.33

ม.33

 

***"ประกันสังคม" พร้อมโอนเงินเยียวยา 4 ส.ค. นี้ เช็กวิธีสมัครพร้อมเพย์***

 

ส่วนที่มีประกาศขยายล็อกดาวน์ และเพิ่มพื้นที่สีแดงเข้ม อีก 16 จังหวัด เป็น 29 จังหวัดนั้น น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางเพจ กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล ว่า...

ขยายมาตรการเยียวยาเป็น 29 จังหวัด 13 จังหวัดเดิม เยียวยา 2 เดือน 
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการเยียวยาลูกจ้างและนายจ้าง จากเดิม 13 จังหวัดได้แก่ : กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครปฐม, นราธิวาส, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา
ให้เพิ่มอีก 16 จังหวัดใหม่ ได้แก่ : กาญจนบุรี, ตาก, นครนายก, นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, เพชรบูรณ์, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สิงห์บุรี, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, เพชรบุรี
สำหรับกลุ่ม 13 จังหวัดเดิม ได้รับการเยียวยา 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) กลุ่ม 16 จังหวัดใหม่ ได้รับ 1 เดือน (ส.ค.)

ลูกจ้าง
- ม. 33 รับเงิน 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) รัฐจ่ายสมทบอีก 2,500 บาทต่อคน รวมเป็น 10,000 บาทต่อคน (ต่อเดือน)
- ม. 39 , 40 รับเงิน 5,000 บาทต่อคน (ต่อเดือน)
- อาชีพอิสระ (freelance) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 รับเงิน 5,000 บาท/คน (ต่อเดือน)

นายจ้าง
- นายจ้าง ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน (ต่อเดือน)
- ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน สูงสุดไม่เกิน 200 คน (ต่อเดือน)
- ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้าง และไม่ได้เข้าประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 เพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท (ต่อเดือน)

สำหรับผู้ประกอบการในระบบ “ถุงเงิน” ที่ “ไม่มีลูกจ้าง” 1.ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 2.ร้าน OTOP 3.ร้านค้าทั่วไป 4.ร้านค้าบริการ 5.กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม. 40 เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท (ต่อเดือน)

ปล.13 จังหวัดเดิม ได้รับการเยียวยา 2 เดือน  16 จังหวัดใหม่ ได้รับเยียวยา 1 เดือน

ขยายพื้นที่สีแดง

ขยายพื้นที่สีแดง