ประธานก.อ.ลั่นไม่นิ่งเฉย จี้"อสส."ตอบกรณีกลับคำสั่งไม่ฟ้องวิคตอเรียฯ

จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2564 น.ส.ชลีรัตน์ ทิมบุตร ตัวแทนเครือข่ายองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ 13 องค์กร ได้ส่งจดหมายถึง นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ ขอให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องคดีสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท และขอทราบเหตุผลการสั่งไม่ฟ้องนางนิภาฯ และนายธนพลฯ จากคณะกรรมการ ชุดที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้แต่งตั้งนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นประธานการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ผลสรุปเป็นอย่างไร เนื่องจาก 13 องค์กร มีหนังสือสอบถามไปหลายครั้งแล้วได้รับแจ้งว่าส่งผลสอบไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ภาคประชาชนไม่เคยทราบผลสอบ และอยากทราบผลสอบสวนนั้นเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อต่อไป

ล่าสุดวันนี้ 29 กรกฎาคม 2564 นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เปิดเผยกับทางทีมข่าว "เนชั่นออนไลน์" ว่า คดีสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ที่ภาคประชาชนและสื่อให้ความสนใจนั้น ตอนนี้ได้รับหนังสือจากนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เด็กและสตรี แล้ว และในฐานะประธานก.อ.ได้ส่งหสังสือนั้นไปให้สำนักงานก.อ. ส่งต่อไปยังนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ให้เป็นผู้ตอบข้อสงสัยว่าเหตุใดอัยการที่เคยสั่งฟ้อง จึงกลับคำสั่งเป็นไม่ฟ้อง ในภายหลัง เรื่องนี้ควรมีความโปร่งใส

ประธานก.อ. บอกว่า เรื่องนี้เกิดในช่วงปี 2562-2563 ตอนนั้น พ้นจากการเป็นอัยการ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริงคดีอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ว่าความบกพร่องในการสั่งคดีเกิดตรงไหน แต่ก็ทราบมาว่าอัยการสูงสุด สั่งสอบสวนแล้วและตอบไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ไม่เห็นว่าสำนักนายกฯ มีความเห็นแย้งกลับมา โดยส่วนตัว ได้รับคำชี้แจงมาเพียงเท่านี้ 

"สิ่งที่ผมอยากเห็นในตอนที่ผมเป็นประธานก.อ. คือ อยากให้สำนักงานอัยการสูงสุดโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตอบคำถามสังคมได้ ดังนั้น คดีวิคตอเรียซีเครท ที่คุณรณสิทธิ์ ส่งเป็นหนังสือสอบถามมา และที่ 13 องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ สอบถามมาอันนี้ผมดูจากข่าวแล้ว เป็นความรับผิดชอบของนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ที่จะต้องตอบคำถาม และถ้าก.อ.เห็นว่าเรื่องนี้มีความผิดปกติ ผมก็อาจจะให้ยกขึ้นมาเป็นเรื่องพิจารณาในก.อ. รับรองว่า ผมไม่นิ่งเฉย"

ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2564 นายรณสิทธิ์ ได้ส่งจดหมาย 4 ฉบับ ไปถึง ประธานก.อ. ถึง นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ อัยการสูงสุด ถึงนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน รองอัยการสูงสุด ว่าที่อัยการสูงสุด และส่งถึงพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของอัยการ ที่กลับคำสั่งไม่ฟ้องนางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ภรรยาและลูกนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ โดยทั้ง 3 คนเป็นเจ้าของสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท จากเดิมที่มีความเห็นสั่งฟ้อง นั้นได้ใช้อะไรประกอบดุลพินิจในการสั่งไม่ฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เพราะในเวลาต่อมา ศาลอุทธรณ์ ตัดสินว่า อาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท เป็นสถานบริการที่มีการค้ามนุษย์ พิพากษาให้จำเลยมีความผิดและให้ลงโทษทั้งจำคุุกและปรับ