สังคม

heading-สังคม

ศบค.จ่อปรับมาตรการล็อกดาวน์ ปิดกิจการเพิ่มอีก ไฟเขียวฉีดวัคซีนสูตรผสม

16 ก.ค. 2564 | 15:27 น.
ศบค.จ่อปรับมาตรการล็อกดาวน์ ปิดกิจการเพิ่มอีก ไฟเขียวฉีดวัคซีนสูตรผสม

ศบค. จ่อปรับมาตรการคุมโควิด-19 เตรียมสั่งปิดกิจการมากขึ้น โดยจะปิดมากที่สุด หลังล็อกดาวน์ 5 วัน ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน พร้อมไฟเขียวฉีดวัคซีนสูตรผสม เข็มที่ 1 ใช้วัคซีนซิโนแวคและกระตุ้นเข็มที่2 ด้วยวัคซีนแอสตราเซเนกา

วันนี้ (16 ก.ค.2564) ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายหลังออกมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร รวมทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยทางด้านของ พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุดมาเป็นเวลา 5 วัน นำไปสู่ข้อสรุปว่าอาจจะจำเป็นต้องปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจจะจำเป็นต้องสั่งปิดกิจการบางอย่าง เพื่อให้เป็นการปิดได้อย่างมากที่สุด หนึ่งในสาเหตุของข้อสรุปดังกล่าวสืบเนื่องมาจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งแจ้งเข้ามาว่ายังมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ออกไป ซึ่งทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดไม่สัมฤทธิ์ผล

ทั้งนี้ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุว่า แม้จะนำมาตรการล็อกดาวน์ใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด มาใช้ได้เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่สถานการณ์โดยรวมยังถือว่าน่าเป็นห่วง ดังนั้น ผอ.ศบค. ได้มอบหมายให้คณะแพทย์ที่ปรึกษาทบทวนมาตรการด้านสาธารณสุขให้เข้มข้นขึ้นเพื่อนำเสนออย่างเร่งด่วน

มาตรการล็อกดาวน์ที่มีการประกาศไป เป็นไปตามสถานการณ์ ตามพื้นที่ 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่จากการทบทวนมาตรการ ยังเห็นว่ามีความน่าเป็นห่วง ทำให้อาจจะปิดมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น ขอให้ติดตามในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้มีการหารือเรื่องวัคซีน ที่จะใช้กระตุ้นหรือบูสตอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม โดยสามารถที่จะฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตราเซเนกา หรือวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ที่สามารถนำมาใช้ในการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้

โดยที่ระชุมศบค.มีข้อสรุปว่า เข็มที่ 1 ใช้วัคซีนซิโนแวคและกระตุ้นเข็มที่2 ด้วยวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นมติของที่ประชุมว่าสามารถที่จะใช้สูตรผสมได้ ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้รายงานในที่ประชุมศบค.ว่าได้รับฟังการศึกษาจากหลายหน่วยงานทั้ง มหาวิทยาลัย โรงเรียนแพทย์ที่มีการรายงานในเรื่องของการใช้วัคซีนผสมต่างชนิดกัน ซึ่งผลประสิทธิภาพของการควบคุมโรคเป็นไปในทิศทางที่น่าพอใจทั้งนี้องค์การอนามัยโลกซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศไทยก็ให้การยอมรับจึงมีข้อสรุปในที่ประชุมที่สามารถใช้ได้ โดยการฉีดวัคซีนใช้สูตรผสม เป็นซิโนแวค เข็มที่ 1 และแอสตราเซเนกา เป็นเข็มที่ 2 ฉีดห่างกัน 3 -4 สัปดาห์

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

ไม่ควรมองข้าม สิ่งต้องห้ามในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ไม่ควรมองข้าม สิ่งต้องห้ามในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

เปิดความเชื่อคนไทย สิ่งที่ควรทำในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีอะไรบ้าง

เปิดความเชื่อคนไทย สิ่งที่ควรทำในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีอะไรบ้าง

ทบ. บรรจุภรรยาจ่าโต๋ ทหารกล้า วีรบุรุษสัตตะโสม เข้ารับราชการ

ทบ. บรรจุภรรยาจ่าโต๋ ทหารกล้า วีรบุรุษสัตตะโสม เข้ารับราชการ

เปิดหลักเกณฑ์ โครงการปรับสภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายุ หลังละ 40,000 บาท

เปิดหลักเกณฑ์ โครงการปรับสภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายุ หลังละ 40,000 บาท

6 อาหารที่ต้องมีติดบ้านไว้ เตรียมพร้อมเพื่อสุขภาพที่ดี

6 อาหารที่ต้องมีติดบ้านไว้ เตรียมพร้อมเพื่อสุขภาพที่ดี