ผู้ว่าฯโคราช ชงยกระดับคุมโควิดทั้งจังหวัด งดออกจากบ้าน ห้ามนั่งกินในร้าน

 วันที่ 8ก.ค.64  นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หารือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1-7  ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายระยะเวลาในการเปิดภาคเรียนออกไป เนื่องจากหลายโรงเรียนมีกำหนดเปิดเรียนในอาทิตย์หน้า 

พร้อมเตรียมหารือมาตรการกับ ศบค.จังหวัด วันพรุ่งนี้ 9 ก.ค.64 โดยจะเพิ่มมาตรการควบคุมโควิด อาทิ งดนั่งกินในร้าน , งดออกจากบ้าน 22.00 - 04.00น , ลดจำนวนคนในการจัดกิจกรรม เพื่อควบคุมการระบาด หลังจากที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 135 ราย ในวันนี้ 8ก.ค.64

  ทั้งนี้ในส่วนของ  แพทย์หญิง อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตอบคำถามสื่อมวลชนกรณีกระแสข่าวเรื่องการล็อคดาวน์ 14 วัน และห้ามออกจากบ้าน โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำว่าล็อคดาวน์ โดยสิ่งที่สาธารณสุขเสนอในที่ประชุมวันนี้เป็นเรื่องของการปรับมาตรการ โดยที่จะมีรายละเอียดว่ากิจการและกิจกรรมใด จะมีการปรับระยะเวลาอย่างไร ในพื้นที่ใด จังหวัดใด แต่ยังไม่ได้มีการสรุปเป็นข้อสรุป ต้องนำเสนอที่ประชุม สบค. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณา และอนุมัติในการประชุม ศบค. ใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (9 กรกฎาคม 2564) 

สำหรับเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางข้ามจังหวัด โดยที่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นในสัปดาห์ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เน้นย้ำเสมอให้พี่น้องประชาชนงดเว้นการเดินทาง ไม่แนะนำให้เดินทาง ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นจริงๆ ส่วนบุคคลที่กำลังรอผลตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ และมีการเดินทาง ขอให้ทางโรงพยาบาลที่ตรวจเน้นย้ำด้วยว่าขณะรอผลตรวจไม่ควรเดินทาง รวมทั้งอีกกรณีนึงก็คือรู้ผลตรวจแล้วว่าพบเชื้อ และมีการพยายามเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปรับการรักษา ก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะว่าในกรณีที่มีการติดเชื้อ อาจจะต้องพักผ่อน พักปอดเพราะว่าการที่เดินทางมีความเหนื่อยล้า บางทีทำให้อาการปอดอักเสบทรุดลงอย่างรวดเร็ว และมีความเป็นห่วงในเรื่องของการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่นในกรณีที่เดินทางด้วย อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีความจำเป็น สาธารณสุขแนะนำว่า ก่อนเดินทางขอให้ติดต่อไปยังศูนย์ประสานงานรับคนกลับบ้านของจังหวัดปลายทาง ซึ่งอาจจะเป็นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล หรือเป็นบุคลากรสาธารณสุข โดยอย่านำเพียงผลการตรวจว่าติดเชื้อไปเฉยๆ เพราะทางโรงพยาบาลปลายทางเตรียมการรับมือและการดูแลไม่ทัน นอกจากนี้ ในการเดินทางต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา มีการลดกระจกเพื่อระบายอากาศเป็นระยะ เตรียมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ให้เพียงพอ และเตรียมยารักษาโรคไปด้วย รวมทั้งมีข้อแนะนำให้เตรียมอาหารและน้ำ ไม่ควรแวะพักปั๊มน้ำมัน เพราะว่าอาจจะมีความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. ระบุว่า สิ่งสำคัญก็คือ ในกรณีที่จำเป็นต้องเดินทาง บุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดปลายทางต้องรับรู้ หรือครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติมิตร ต้องรับรู้และต้องเข้าใจว่าเมื่อเดินทางกลับไปแล้วจะต้องแยกกักตัว แม้ว่าจะยังไม่ได้มีผลยืนยันว่าเป็นผู้ติดเชื้อ แต่ถือได้ว่าเป็นการเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสีแดง สีแดงเข้ม เพราะฉะนั้นการกักตัวเป็นสิ่งที่ต้องขอให้ทุกคนต้องทำร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมฝากไว้ว่า มาตรการที่จะเสนอ ศบค. ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้ อาจจะทำให้เกิดความติดขัด ความไม่สะดวกแก่พี่น้องประชาชนในบางส่วน ซึ่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ทั้งนี้ การปรับมาตรการให้เข้มขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งสถานประกอบการ และประชาชน เน้นย้ำเรามีความอดทนในวันนี้ ที่สุดเราต้องชนะ