สังคม

heading-สังคม

ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ห้ามเเอบเเซ่บ สามีต่างชาติพักกับภรรยาไทย ต้องจดทะเบียน

24 มิ.ย. 2564 | 18:43 น.
ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ห้ามเเอบเเซ่บ สามีต่างชาติพักกับภรรยาไทย ต้องจดทะเบียน

ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบโดส ไม่ต้องกักตัว ซึ่งโรงแรมได้ออกกฎชาวต่างชาติพักกับเมียไทย ต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย

  กรณีโครงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ต้องกักตัว ที่จำกัดให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเท่านั้น (ครบโดสอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง) มีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน  ซึ่งจะนำร่องด้วยการ เปิดเมืองภูเก็ต ภายใต้นโยบาย  ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ Phuket Sandbox 

 

 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป  ซึ่งได้ผ่านครม.แล้ว ตอนนี้เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือรอประกาศราชกิจจานุเบกษา ซึ่งน่าจะออกภายในมิ.ย.เดือนนี้
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สถานการณ์โควิด -19
  ซึ่งความคืบหน้าเกี่ยวกับ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.64 ทาง นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีหากสามีเป็นชาวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ต ซึ่งต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย(SHA+) และอยากพักร่วมกับภรรยาคนไทย ก็ต้องเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นแค่แฟนสาว คู่รัก คู่ขา คู่นอนฯลฯ จะไม่อนุญาต รวมถึงคู่รักที่เป็นเพศที่ 3 ก็พักร่วมกันไม่ได้ แม้ในช่วงเวลากลางวัน ยกเว้นเป็นผู้ที่เดินทางมาด้วยกันตั้งแต่ประเทศต้นทาง 

มาตรการจังหวัดภูเก็ต


 ทั้งนี้เงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศผ่านโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

- ต้องเป็นชาวต่างชาติและบินลงที่จังหวัดภูเก็ต

- ชาวต่างชาติต้องได้รับวัคซีนครบโดส อย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทาง และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน

- ต้องเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงต่ำ กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ต้องมากับผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนแล้ว

- ต้องมีเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลไม่พบเชื้อไม่เกิน 72 ชั่วโมง และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้ออีก 3 ครั้งในประเทศไทย ได้แก่ วันที่เดินทางมาถึง วันที่ 7 และ 14 โดยโรงพยาบาลคู่สัญญา

- ต้องเดินทางถึงที่พักด้วยรถโรงแรมและรับการตรวจเชื้อ ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องจนกว่าผลการตรวจไม่พบเชื้อ จึงจะอนุญาตให้ท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตได้ เมื่อครบ 14 วัน จึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวต่อยังจังหวัดอื่นๆได้

มาตรการจังหวัดภูเก็ต
นักท่องเที่ยวที่สามารถร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์โดยไม่ต้องกักตัว


1 ผู้เดินทางอายุ 18 ปีขึ้นไป จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนตามเกณฑ์ของวัคซีนแต่ละชนิด มีระยะเวลาการฉีดมากกว่า 14 วัน โดยเดินทางจากประเทศที่มีความเสี่ยงปานกลาง/ต่ำ ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข และททท.เลือกบางประเทศ


2 เด็กอายุ 12-17 6-18 ปี* สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องกักกัน หากมาถึงภูเก็ตและเข้ารับการตรวจโควิด-19 ที่สนามบินโดยออกค่าใช้จ่ายเอง


3 เด็กอายุต่ำกว่า 12 6 ปี* เดินทางกับพ่อแม่และผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีน

มาตรการจังหวัดภูเก็ต

สรุปมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2564

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ครั้งที่ 8/2564 เมื่อวันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 ตามที่สำนักงานเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เสนอ ดังนี้

 ข้อ 8. หลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
(เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำเสนอ ดังนี้
 8.1 เกณฑ์การรับนักท่องเที่ยว แบ่งเป็น

มาตรการจังหวัดภูเก็ต


ก่อนเดินทางเข้ามาถึง
         1) ให้มีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้
          - หนังสือรับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE)
         - ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID -19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
         - กรมธรรม์ประกันภัยที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ และรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใด  ซึ่งรวมถึงกรณีโรคโควิด - 19 ตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักร ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯลฯ
         2) กำหนดประเทศของนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลาง หรือกลุ่มประเทศตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสนอ ทั้งนี้ กรณีที่มาจากประเทศอื่นต้องอยู่ในประเทศที่กำหนดอย่างน้อย 21 วัน กรณีผู้มีสัญชาติไทย และชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทยจะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลาง หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
         3) ได้รับวัคซีนตามกำหนดของประเทศไทยครบกำหนดสองเข็ม (ตามประเภทวัคซีน) อย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทาง และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Vaccine Certificate) กรณีเด็กสามารถเดินทางมาพร้อมผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนตามที่กำหนด
         4) กรณีเคยติดเชื้อ ต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดสองเข็ม (ตามประเภทวัคซีน) อย่างน้อย 14 วัน
 8.2 ขั้นตอนการปฏิบัติ
 ก่อนการเดินทาง
         1) ยื่นเอกสาร – รับใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ
         2) ยืนยันผลการอนุมัติพร้อมกับเอกสาร COE
         3) ลงทะเบียนผ่านทาง www.entrythailand.go.th
 เมื่อเดินทางมาถึง
         4) ดำเนินการตามข้อกำหนดผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรฯ
         5) ติดตั้งแอปพลิเคชัน Thailand Plus ร่วมกับระบบสารสนเทศอื่นที่ทางจังหวัดกำหนด และในกรณีเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตต้องติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ)
         6) เข้ารับการตรวจหาเชื้อการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ณ สนามบิน โรงแรมที่พัก หรือจุดตรวจ
         7) เดินทางเข้าที่พักที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน SHA Plus กรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เข้าที่พักแบบ ALQ
          ทราบผลการตรวจแล้วไม่พบเชื้อ สามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ (กรณีเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า สามารถออกนอกห้องพัก และใช้บริการในบริเวณที่พัก)

มาตรการจังหวัดภูเก็ต
         9) พำนักในภูเก็ตอย่างน้อย 14 คืน กรณีอยู่น้อยกว่า 14 คืน ต้องเป็นการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรด้วยเที่ยวบินตรงเท่านั้น
         - กรณี เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า
         วันที่ 1 - 3 นักท่องเที่ยวสามารถออกนอกห้องพักและใช้บริการบริเวณที่พัก
         วันที่ 4 - 7 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในระบบปิดตามเส้นทางที่กำหนด
         วันที่ 8 - 14 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย อำเภอเกาะพะงัน เกาะเต่า โดยไม่กักตัวแบบมีเงื่อนไข
         10) การตรวจหาเชื้อโควิด - 19 ด้วยวิธี RT - PCR อีกจำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 6 – 7 และ 12 – 13 หรือตามข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19
         11) ปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด
 ก่อนเดินทางออก
         12) ก่อนเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ต/พื้นที่ของเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า ไปจังหวัดอื่น ๆ ให้แสดงหลักฐานยืนยันว่าได้พำนักในที่พัก SHA Plus/ALQ ตามระยะเวลาที่กำหนด และมีผลการตรวจเชื้อโควิด – 19 ตามที่ราชการกำหนด

 8.3 การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการ
         1) จังหวัดภูเก็ตดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมการเปิดเมืองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Phuket Tourism Sandbox) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่บริหารจัดการ มอบหมายภารกิจ กำกับติดตามการเดินทางเข้า/ออกจังหวัดภูเก็ตของนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยทั้งที่เดินทางจากต่างประเทศและภายในประเทศ ตั้งแต่เริ่มเข้ามาจนกระทั่งเดินทางออกจากจังหวัด รวมถึงจัดทำระบบติดตามผลการปฏิบัติงาน ข้อมูลการเข้าออกของนักท่องเที่ยว การเฝ้าระวังและติดตาม ประเมินสถานการณ์การติดเชื้อ ข้อร้องเรียนหรือ ข้อคิดเห็นของประชาชน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคการปฏิบัติการและแนวทางแก้ไข เพื่อรายงานให้ ศปก.ศบค. และผู้บริหารระดับสูงทราบอย่างต่อเนื่อง
         2) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า)
               (1) มีระบบกำกับควบคุมในที่พัก (Covid Manager อาสาสมัครสาธารณสุขประจำโรงแรม)
               (2) มีระบบกำกับควบคุมในการเดินทาง Sealed Route โดยที่พักและบริษัทนำเที่ยว
               (3) จัดระบบควบคุมคัดกรองด่านเข้า-ออกทางอากาศและทางเรือทั้ง 3 เกาะ และเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ

8.4 การเตรียมความพร้อมประชาชน จัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำแผนการสื่อสารเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในทุกช่องทางการสื่อสาร

 

8.5 การเตรียมความพร้อมมาตรการการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค
         1) จังหวัดภูเก็ต ใช้ระบบศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) และอาสาสมัครตำบลติดตั้งแอปพลิเคชัน Thailand Plus และแอปพลิเคชันหมอชนะ (ภาษาอังกฤษ) และดำเนินการตามมาตรฐาน SHA Plus และมาตรการ D-M-H-T-T-A
         2) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า)
               (1) จัดตั้งคณะทำงานดำเนินการตามแผนคัดกรองและเฝ้าระวัง
               (2) สถานประกอบการต้องมีใบรับรองแสดงภูมิคุ้มกันหมู่
               (3) ผู้ให้บริการที่ต้องสัมผัสตรงกับนักท่องเที่ยวต้องใส่ชุดป้องกันและรับวัคซีนครบ 2 โดส
               (4) ดำเนินการตามมาตรฐาน SHA Plus และมาตรการ D-M-H-T-T-A

 8.6 การเตรียมความพร้อมของทรัพยากรด้านการแพทย์สาธารณสุข กำลังคนในการกำกับติดตาม และทรัพยากรสนับสนุนอื่น ๆ จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการจัดบุคลากรทางแพทย์ อุปกรณ์ และหอผู้ป่วยเพื่อรองรับกรณีมีผู้ป่วยอย่างเพียงพอ พร้อมจัดทำแผนเพื่อรับสถานการณ์โดยจัดตั้ง Command Center และคณะทำงานเพื่อกำกับดูแลและให้คำแนะนำ

 8.7 การจัดทำแผนรับมือและแผนชะลอหรือยกเลิกโครงการ
         จังหวัดภูเก็ต กรณีมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ มีลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล และมีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้างที่หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้ มีผู้ติดเชื้อครองเตียงตั้งแต่ร้อยละ 80 ของศักยภาพ โดยจะมีมาตรการปรับเปลี่ยน 4 ระดับ ดังนี้
         1) ปรับลดกิจกรรม
         2) ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับสถานการณ์ (Sealed route)
         3) มาตรการกักตัวภายในสถานที่พัก Hotel Quarantine
         4) ทบทวนยุติโครงการ Phuket Sandbox
         เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จัดทำแผนเกณฑ์การยกเลิกการรับนักท่องเที่ยว เมื่อมีการระบาดโดยใช้ศักยภาพในการรองรับของโรงพยาบาลเกาะสมุย (โรงพยาบาลแม่ข่ายใน 3 เกาะ) เป็นเกณฑ์กำหนด โดยระบบของเกาะสมุยสามารถรองรับการติดเชื้อสะสมได้ในระบบ Samui Sealed Route Model ได้ 20 รายต่อ 2 สัปดาห์ ซึ่งสามารถรองรับการระบาดรุนแรงของโรคได้ทั้งหมดในกรณีที่ไม่มีการส่งต่อ และสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น เมื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงขึ้นได้ ทั้งนี้ เมื่อพบผู้ติดเชื้อ และคาดการณ์ว่าจะมีการระบาดที่ระบบปกติจะไม่สามารถรองรับได้ จึงจะกลับไปใช้ระบบ ALQ ของกระทรวงสาธารณสุข

 ที่ประชุมมีมติ รับทราบและเห็นชอบหลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) โดยมีความเห็นและข้อสังเกต ดังนี้
         1. การพิจารณาหลักการการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) เป็นความตกลงร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ โดยคำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ จำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีน และความพร้อมด้านสาธารณสุข เป็นสำคัญ ซึ่งจะต้องดำเนินการและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะต้องติดตามและประเมินผลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
         2. แนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องเพื่อรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อื่น ๆ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอนั้น ควรให้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันระหว่างผู้ประกอบการกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อทราบความต้องการที่แท้จริงของพื้นที่
         3. เกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาประเทศไทยต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดของประเทศไทยครบ 2 เข็ม ตามประเภทวัคซีน หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด อย่างน้อย 14 วัน และมีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน โดยจะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก World Health Organization : WHO

มาตรการจังหวัดภูเก็ต

 ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
         1. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 (ศปก.สธ.) และโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 สร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ ข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 รวมทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและจำนวนผู้ติดเชื้อที่รักษาหายแล้วเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของจำนวนตัวเลขที่มีแนวโน้มอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้
         2. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 กรุงเทพมหานคร กระทรวงแรงงาน และกระทรวงยุติธรรม เร่งดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่กลุ่มเสี่ยงอื่นที่เป็นคลัสเตอร์ (Cluster) ทั้งในพื้นที่ชุมชนและแคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้มีการระบาดของโรคโควิด - 19 เพิ่มขึ้น รวมทั้งให้มีการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ในเรือนจำ/สถานกักกันด้วย
         3. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด – 19 ดำเนินการในการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ดังนี้
         3.1 กำหนดหลักเกณฑ์และตัวชี้วัดการจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัดตามกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยจัดสรรให้กับผู้ที่ขึ้นทะเบียนการฉีดวัคซีนไว้แล้ว และให้พิจารณาการจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น กลุ่มเรือนจำและผู้ต้องขัง กลุ่มครูและโรงเรียน กลุ่มนักบินและลูกเรือ พื้นที่จังหวัดชายแดน พื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ พื้นที่การท่องเที่ยว พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พื้นที่อุตสาหกรรม เป็นต้น โดยพิจารณาตามความจำเป็นเร่งด่วน และความเป็นธรรมให้กับทุกกลุ่ม รวมทั้ง คำนึงถึงการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงในภาพรวมของประเทศด้วย
         3.2 จัดทำรายละเอียดเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัดและพื้นที่ให้มีความชัดเจน พร้อมนำเสนอจำนวนการจัดส่งวัคซีน และการฉีดวัคซีน โดยให้มีข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งในระดับจังหวัดและระดับพื้นที่ (อำเภอ/เขต) และระดับกลุ่มเป้าหมาย
         3.3 ให้กระทรวงแรงงาน จัดทำข้อมูลจำนวนแรงงานทั้งในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 และผู้ใช้แรงงานนอกระบบประกันสังคม เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 สามารถดำเนินการบริหารจัดการวัคซีนได้อย่างเหมาะสมต่อไป
         4. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการนัดหมายฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 โดยให้หน่วยบริการฉีดวัคซีนกำหนดเวลานัดหมายผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรหรือตามความพร้อมของหน่วยให้บริการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากรณีประชาชนไม่ได้รับการฉีดวัคซีนตามที่ได้นัดหมายล่วงหน้า

จังหวัดภูเก็ต
         5. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด - 19 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงกรณีการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ดังนี้
         5.1 ให้เน้นย้ำหลักการดำเนินการของรัฐบาลที่ไม่ปิดกั้นภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน แต่เนื่องจากปัจจุบันวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ได้รับการอนุญาตขึ้นทะเบียนแบบฉุกเฉิน บริษัทผู้ผลิตวัคซีน ประเทศผู้ผลิตวัคซีนจึงกำหนดเงื่อนไขให้รัฐหรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของประเทศผู้ซื้อวัคซีนเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ สำหรับการกระจายวัคซีนได้มีการพิจารณาจากจำนวนประชากร สถานการณ์การแพร่ระบาด กลุ่มเป้าหมาย และพื้นที่ตามนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงมีการร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้สามารถกระจายและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง และให้จัดสรรงบประมาณในการเยียวยาผลกระทบหลังฉีดวัคซีนเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนอีกด้วย
         5.2 ให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลเอกชน และภาคเอกชน ที่ประสงค์ดำเนินการจัดหา/สั่ง หรือนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 ทราบถึงขั้นตอน ระเบียบและวิธีการ การจัดสรรและการจัดหางบประมาณเพื่อดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้งบประมาณของตนเอง รวมถึงความรับผิดชอบหากผู้รับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19 เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น การจัดทำประกันที่คุ้มครองกรณีได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด - 19 (อาการแพ้วัคซีน หรือเสียชีวิต) เป็นต้น


         6. ให้ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ศูนย์ปฏิบัติแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง (ศปม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบมาตรการในแต่ละจังหวัดเพื่อให้สอดคล้องมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และขอให้เน้นย้ำการป้องกันการทุจริตในทุกกรณีที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 การผ่อนคลายมาตรการ การบริหารจัดการวัคซีน รวมทั้งเข้มงวดการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ และการเปิดให้บริการของร้านอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น

มาตรการจังหวัดภูเก็ต
 ในส่วนของเรื่องของ 7 ขั้นตอน ของกระบวนผู้โดยสาร ขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานภูเก็ต (HKT) ดังนี้
ขั้นตอนที่1 ผู้โดยสารผ่าน Thermo Scan โดยจะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.3 °C หากพบว่ามีอุณหภูมิ
สูงเกินกว่าที่กำหนดจะต้องพักคอยอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด เพื่อประเมินอาการเป็นลำดับต่อไป
ขั้นตอนที่2 ผู้โดยสารรับซิมการ์ด และติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานจะตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร ณ บริเวณพักคอยผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
ขั้นตอนที่3 เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ประกอบด้วย
 1. Vaccine Passport
 2. Insurance US$ 100,000
 3. Lab Testing Result RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
 4. แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ”
หากผู้โดยสารที่เอกสารไม่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศทุกกรณี และจะถูกผลักดันกลับโดยสายการบินจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ขั้นตอนที่4 เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร  ประกอบด้วย
1. COE
 2. เอกสารการเข้าประเทศ เช่น Visa, 
 3. เอกสารการจองที่พัก SHA+
ขั้นตอนที่5 รับสัมภาระ 
ขั้นตอนที่6 พิธีการทางศุลกากร
ขั้นตอนที่7 ผู้โดยสารเดินทางไปยังจุดลงทะเบียน SWAB ณ ประตูทางออกหมายเลข 2 เพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อ โดยเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วจะไปยังจุดนัดรับ เพื่อเดินทางไปยังที่พักและรับทราบผลการตรวจ ณ ที่พักเป็นลำดับต่อไป
*** ทั้งนี้ ขั้นตอน กระบวนการ อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ***

ขอบคุณ
ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

กัน จอมพลัง ตั้งข้อสงสัย หลังเจอ ทะเบียนรถจำนวนมากใน บ้านกำนันลี

กัน จอมพลัง ตั้งข้อสงสัย หลังเจอ ทะเบียนรถจำนวนมากใน บ้านกำนันลี

อาลัยเศร้า สิ้น "คุณหญิงธิดา พงษ์พานิช" ถึงแก่อนิจกรรมในวัย 81 ปี

อาลัยเศร้า สิ้น "คุณหญิงธิดา พงษ์พานิช" ถึงแก่อนิจกรรมในวัย 81 ปี

ราคาทองวันนี้ วันที่ 22 กันยายน 2568 ราคาทองปรับตัวอีกครั้งที่ 7

ราคาทองวันนี้ วันที่ 22 กันยายน 2568 ราคาทองปรับตัวอีกครั้งที่ 7

เตือน! 4 ข้อห้ามหลังมื้ออาหาร ทำผิดเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

เตือน! 4 ข้อห้ามหลังมื้ออาหาร ทำผิดเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต

เตือน 2 ราศี ดวงดีต้องรีบตักตวง ก่อน "ดาวพฤหัสบดีย้าย" 2 ต.ค.นี้

เตือน 2 ราศี ดวงดีต้องรีบตักตวง ก่อน "ดาวพฤหัสบดีย้าย" 2 ต.ค.นี้