หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย

05 มิถุนายน 2564

หญิงลี เผยข้อสงสัยที่ตนเก็บง่ำเอาไว้เมื่อครั้งร่วมงานกับลุงพล หลังได้ฟันคำแถลงของลุงพลที่ตอบสื่อไปครั้งได้รับการประกันตัว มันผิดจากที่เคยฟังมาอย่างสิ้นเชิง จนค้างคาใจมาว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไรกันแน่

จากกรณี นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ได้ประกันตัวในคดีดังกล่าว โดยวางหลักทรัพย์ 1.8 แสน พร้อมเงื่อนไข 5 ข้อ คือ 1. ห้ามหลบหนี 2. ห้ามข่มขู่พยาน 3. ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหรือห้ามก่อเหตุอันตรายประการอื่น 4. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และ 5. ให้แต่งตั้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านกกตูม เป็นผู้กำกับดูแลเพื่อให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนดโดยเคร่งครัด ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย

 

ทางด้าน ลุงพล ได้เปิดใจว่า ขอบคุณศาลจังหวัดมุกดาหาร ที่ให้ความยุติธรรม ต่อไปขอมอบหมายให้ทนายตั้มดำเนินการสู้คดีตามกฎหมาย เมื่อถูกถามว่ารู้สึกอัดอั้นตันใจไหมที่ต้องมาสู้คดีน้องชมพู่ ลุงพลกล่าวเพียงว่า เหมือนที่ตนร้องเพลงทุกอย่าง จากนั้น ลุงพล เริ่มน้ำตาคลอเบ้า เผยว่า ที่ผ่านมาตนไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ทำมาหากินธรรมดา เรื่องไปยุ่งกับพยานหลักฐานเป็นความเท็จ เพราะยูทูบเบอร์ก็เกาะติดชีวิตอยู่แล้ว จะไปยุ่งพยานหลักฐานที่ไหน เวลาเดียวที่ไม่ได้เผยแพร่คือเวลาหลับนอนเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ร้องเพลงที่โรงพักนั้น ลุงพลกล่าวด้วยเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า บอกว่า คิดถึงหลานชมพู่มาก เชื่อว่าตอนนี้หลานคงไปอยู่ภพภูมิที่ดีกว่าแล้ว

 

หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย

 

ทั้งนี้อีกหนึ่งคนที่เคยร่วมงานกับลุงพล อย่าง หญิงลี ศรีจุมพล หรือ น.ส. ธิดารัตน์ ศรีจุมพล อายุ 38 ปี นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ก็ได้ออกมาเผยข้อสงสัยที่ตนเก็บง่ำเอาไว้เมื่อครั้งร่วมงานกับลุงพลหลังได้ฟันคำแถงของลุงพลที่ตอบสื่อไปครั้งได้รับการประกันตัว มันผิดจากที่ตนเคยฟังมาอย่างสิ้นเชิงโดยหญิงลี กล่าวว่าตอนนั้นคิดว่าลุงพลเป็นแพะ ถูกโจ่มตีหนักจนตนเห็นใจ ซึ่งตอนนั้นหญิงลีรับว่าลืมคิดถึงความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่

 

หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย

 

จึงติดต่อหางานให้ลุงพล และจนได้ขึ้นเวที แต่ไม่เคยขึ้นเวทีพร้อมกัน เพราะลุงพล ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนั้น และทำงานร่วมกันได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ค่าตัวลุงที่หญิงลีให้ครั้งละประมาณ 20,000 - 40,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดี จากการสังเกตระหว่างที่ทำงานด้วยกัน  ลุงพลมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับน้องชมพู่ให้ฟัง และบางครั้งมักจะไปนั่งซึมเศร้า

ต่อมาหญิงลีเห็นภาพในข่าวช่วงลุงพลแถลง ลุงพลกล่าวว่า วันที่น้องชมพูหายไป เป็นวันที่ตนไม่เห็นหน้าน้องชมพู่เลย ซึ่งเป็นคำพูดที่สวนกับความรู้สึกของตนเองทันที เพราะวันแรกที่พบกันที่รีสอร์ต ลุงพลเล่าให้ฟังว่า วันนั้นน้องชมพู่รบเร้าจะไปด้วย ถ้าพาหลานไป หลานคงจะไม่เสียชีวิต คำพูดคำนั้นทำให้ตนติดใจ และค้างคาใจมาโดยตลอด ซึ่งทั้งหมดทั้งม้วนก็ยังเห็นใจลุงพล แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการความยุติธรรมด้วย

 

หญิงลี แฉ ลุงพล พูดกลับกลอกไปมา เล่าเรื่องน้องชมพู่ไม่ตรง กับที่เคย