ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

02 มิถุนายน 2564

ย้อนไทม์ไลน์ ลุงพล หรือ นายไชยพล วิภา ลุงเขยน้องชมพู่ ออกสื่อทำตัวน่าสงสาร จนประชาชนเกือบให้หลุดเป็นผู้ต้องสงสัย ชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง จนล่าสุดโดนออกหมายจับต้องหนีหัวซุกหัวซุน

กลายเป็นประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์เลยก็ว่าได้ ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดมุกดาหารได้อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นายไชยพล วิภา ลุงเขยน้องชมพู่ ที่ตำรวจได้พยานทุกอย่างแน่ชัดว่าคดีนี้มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำได้ ก่อนที่ไม่นานมานี้ตัว นายไชยพล วิภา ยังไม่มามอบตัวและเจ้าหน้าที่ก็ตามหาที่บ้านไม่เจอ ซึ่งอาจจะบอกได้ว่า นายไชยพล วิภา ได้หลบหนีไปแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- ศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับ ลุงพล ของ น้องชมพู่ ทำหลานเสียชีวิต
- เนียนมากมาตลอด! เปิดหลักฐานชี้ตัว ลุงพล กว่าจะแน่ชัดต้องเก็บรวบรวมกว่า 1 ปี คนร้ายคดีนี้เป็นใครไม่ได้นอกจากเขาคนเดียวเท่านั้น

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

 

เกี่ยวกับคดีนี้ที่ยาวนานมากว่า 1 ปีเต็มตั้งแต่วันที่น้องชมพู่หายตัวไป วันนี้ทีมข่าวไทยนิวส์ออนไลนได้ไล่เรียงไทม์ไลน์ชีวิตของ นายไชยพล วิภา ตั้งแต่ต้นจนถึงล่าสุด ซึ่งหลายคนอาจจะได้เห็นห้วงชีวิตว่าผู้ชายคนนี้ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก ถึงขั้นเขาเองก็เกือบจะหลุดเป็นผู้ต้องสงสัย

 

เริ่มตั้งแต่วันเกิดเรื่องวันที่ 11 พ.ค. 2563 น้องชมพู่ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ขวบ หนูน้อยแห่งบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย กระทั่งครอบครัวได้ระดมกำลังออกตามหา และได้แจ้งความกับตำรวจ แต่ก็ยังตามหาไม่พบ สร้างความทุกข์ใจให้คนเป้นพ่อและแม่อย่างมาก 


กระทั่งวันที่ 14 พ.ค. 2563 พบร่างของน้องชมพู่ บริเวณเขาภูเหล็กไฟ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวบ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร หลังหายออกจากบ้านไปได้ 3 วัน ซึ่งมีตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ช่วยกันค้นหา กระทั่งยายตุน อายุ 70 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ที่เข้าไปหาของป่าบนเทือกเขาภูพานน้อย เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล แจ้งเบาะแสว่า พบรองเท้าเด็กสีเขียวกลางป่า

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

 

ต่อมาวันที่ 15 พ.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำร่างน้องชมพู่ส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นพ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญลักษณ์ แพทย์นิติเวช เปิดเผยผลชันสูตรร่างน้องครั้งแรก ระบุว่า ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เนื่องจากสภาพศพเริ่มเน่า


จากนั้นวันที่ 17 พ.ค. 2563 ครอบครัวน้องชมพู่ ส่งร่างน้องชมพู่ให้สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรเป็นครั้งที่ 2 ผลชันสูตร พบว่า พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย อวัยวะเพศมีบาดแผลฉีกขาด แต่ภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) ระบุว่า ตรวจคราบอสุจิในช่องคลอดไม่ได้ เนื่องจากศพมีสภาพเน่าเปื่อย

วันที่ 20 พ.ค. 2563 ครอบครัวน้องชมพู่ ทำพิธีฌาปนกิจศพเชิงตะกอนแบบโบราณ ที่ป่าช้าบ้านกกกอก

หลังจากเผาศพน้องชมพู่ ต่อมาในวันที่ 3 มิ.ย. 2563 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) ระบุว่า ยังไม่ตัดกลุ่มผู้ต้องสงสัยทิ้ง ทั้งนายพราน - บุคคลใกล้ชิดในครอบครัว ตำรวจเฝ้าประกบตัวผู้ต้องสงสัย ขณะที่โลกออนไลน์และสังคมต่างพุ่งเป้าไปที่ นายไชยพล วิภา หรือ ลุงพล อายุ 44 ปี ลุงของน้องชมพู่เป็นผู้ต้องสงสัย แต่ลุงพลยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ใช่คนร้าย


ล่วงเลยมาถึงวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ตำรวจนำตัวลุงพล ไปสอบปากคำในฐานะพยาน ยาวนาน 12 ชั่วโมง และนำตัวไปชี้จุด เล่าลำดับเหตุการณ์ ถ่ายภาพประกอบ ต่อมาวันที่ 11 มิ.ย. 2563 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปเก็บหลักฐานที่บ้านลุงพล ตรวจรถยนต์ เสื้อผ้า เก็บหลักฐานไปตรวจสอบ กระทั่งวันที่ 17 มิ.ย. 2563 ตำรวจเข้าไปตรวจสอบหลักฐานที่บ้านลุงพลอีกครั้ง โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า นำกระสอบปุ๋ย ถุงมือ และขนสุนัขที่บ้านไปตรวจสอบ พร้อมทั้งขอดูมีดพร้าต่างๆ

วันที่ 7 ก.ค. 2563 ลุงพลไปออกรายการโทรทัศน์ หลังถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนทำล้านเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังบอกอีกว่ารักน้องชมพู่เหมือนลูกตัวเอง พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตไปถึงพ่อแม่น้องชมพู่ วันต่อมา พ่อแม่น้องชมพู่เปิดใจเหตุสงสัยในตัว ลุงพล พบพิรุธหลายประเด็น ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน ทำให้ลุงพลประกาศท้าสาบานที่วัดพระแก้ว พ่อแม่น้องชมพู่รับคำท้า แต่ลุงพลไปสาบานต่อหน้าหลวงปู่ลิ้น วัดถ้ำภูผาแอก ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายหลาน
 

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

ระหว่างนั้นเริ่มมีสื่อทีวีดิจิทัล 3 - 4 สำนัก เสนอชีวิตความเป็นอยู่ของลุงพลอย่างละเอียด และความสนใจวงการบันเทิง ทำให้สังคมเกิดความสงสาร และมีนักปั้นดาราอย่าง อุ๊บ วิริยะ พงษ์อาจหาญ นำตัวลุงพลเข้าสู่วงการบันเทิง ถ่าย MV เต่างอย ร่วมกับ จินตหรา พูลลลาภ นักร้องหมอลำสาว เมื่อเดือน ก.ย. 2563 หลังจากนั้น ลุงพลและนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยา เริ่มมีชื่อเสียง มีทั้งงานเดินแบบ พรีเซ็นเตอร์สินค้า รวมทั้งมียูทูบเบอร์และแฟนคลับจำนวนมาก

จนวันที่ 2 ต.ค. 2563 หลังจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน้องชมพู่ไม่ได้เดินขึ้นไปเองที่จุดพบศพบนภูเหล็กไฟ และอาจถูกใครบางคนกระทำด้วยวิธีการใดๆ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมให้เสียชีวิต แต่ไม่ชี้ชัดว่าใครคือผู้ต้องหา ระหว่างนั้นลุงพล และป้าแต๋น พร้อมทนายความมาร่วมรับฟังการแถลงข่าว ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

ช่วงเวลาวันที่ 4 - 7 ม.ค. 2564ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องชมพู่ พี่สาว น้าต่าย น้าเสริม น้าแต น้าฝน รวม 7 คน ทยอยเข้าเครื่องจับเท็จ ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ จ.ปทุมธานี กระทั่งวันที่ 10 ม.ค. 2564 ถึงคิวของลุงพล เจ้าตัวระบุว่า ถูกเชิญเข้าเครื่องจับเท็จประมาณ 5 - 6 ชม. ตั้งแต่บ่ายยันดึก ตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจน่าจะนำตัวเข้าเครื่องจับเท็จก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด หากจะโยนความผิดมาลงที่ตน ก็จะสู้ให้ถึงที่สุด

จนวันที่ 19 ม.ค. 2564 ลุงพลก่อเหตุแย่งไมค์และทุบตี นายนภัส ปราณีตพลกรัง หรือ ฟ้า ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี และพยายามทำร้ายนายกิตติศักดิ์ วีระชัยเจริญสุข หรือ ติ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี หลังเคยนำเสนอข่าวเรื่องเงินบริจาคปรับปรุงสำนักสงฆ์ภูหลวงไม่ชอบมาพากล ทำให้เจ้าตัวประกาศจะให้สัมภาษณ์เฉพาะยูทูบเบอร์เท่านั้น รวมทั้งคดีครอบครองไม้มะค่าแต้ ไม้หวงห้ามที่ลุงพลอ้างว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนโสรภี ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมุกดาหารเข้าไปตรวจสอบท่อนไม้ที่บ้านของลุงพล

หลังจากเหตุการณ์นี้ ทำให้ นายนภัส ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ภูหลวง เพื่อดำเนินคดีกับลุงพลในข้อหาทำร้ายร่างกาย ข่มขืนจิตใจ และพยายามชิงทรัพย์ ก่อนที่ต้นสังกัดจะให้กลับกรุงเทพฯ และเปลี่ยนผู้สื่อข่าวคนใหม่มาทำข่าวลุงพลแทน

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง

ขณะที่สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี หนึ่งในทีวีดิจิทัลที่เคยเสนอชีวิตความเป็นอยู่ของลุงพล นำเสนอข่าวว่า คนที่เข้าหาลุงพลแต่ละคนต่างเริ่มตีตัวออกห่าง ทั้งอุ๊บ วิริยะ, หมอปลา มือปราบ​สัมภเวสี รวมทั้งเริ่มมีสินค้าบางเจ้าตัดสินใจไม่ต่อสัญญาพรีเซ็นเตอร์ นายยิ่งยง ยอดบัวงาม ตัดสินใจถอดเพลง “อยากเป็นป้าแต๋นแฟนลุงพล” ออกจากยูทูป ทำให้ลุงพลใช้บริการทนายรัชพล ศิริสาคร เจ้าของเพจสายตรงกฎหมายให้มาช่วยดูคดีทำร้ายร่างกาย พร้อมขอโทษกับนักข่าว

ล่วงเลยมาวันที่ 21 ม.ค. 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนใครที่ลุ้นหมายจับอยู่ก็ลุ้นต่อไป แต่ได้ฝากไปบอกถึงผู้ก่อเหตุว่าบาปบุญมีจริง ท่านก็หนีได้ชั่วคราว ถ้าเหนื่อยก็ให้มาจับเข่าคุยกันดีกว่าว่าเหตุเกิดจากอะไร

จากนั้นวันที่ 27 ม.ค. 2564 ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร และตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เชิญตัวลุงพลรับทราบข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน 2 งาน ก่อสร้างองค์พญานาค สูง 7 เมตร ก่อนนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.ภูหลวง รวมทั้งป้าแต๋น หลังสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ลุงพลได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยตีวงเงินประกัน 1 แสนบาท ภายหลังคดีดังกล่าวได้โอนมายังกองกำกับการ 3 บก.ปทส. เป็นผู้รับผิดชอบคดี

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง


11 พ.ค. 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงครบรอบ 1 ปี การเสียชีวิตของน้องชมพู่ ว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงทำงานตลอด โดยชุดทำงานในพื้นที่เข้าสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งเป็นพยานกลุ่มเดิม แต่สอบเพิ่มในประเด็นที่ยังมีครอบคลุมเพื่อเตรียมนำส่งสำนวนไปยังอัยการภายในเดือน พ.ค. ส่วนกระแสข่าวว่าจะจับกุมคนร้ายในช่วงกลางเดือนนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ทางตำรวจได้วางกรอบเวลาไว้ชัดเจน ยืนยันไม่มีการปล่อยให้คนผิดลอยนวล

ในวันที่ 21 พ.ค. 2564 อัยการจังหวัดมุกดาหารนัดลุงพลเพื่อเตรียมส่งฟ้อง ในคดีครอบครองไม้มะค่าแต้ ที่ลุงพลอ้างว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนโสรภี แต่เนื่องจากส่งสำนวนไปที่สำนักงานอัยการภาค 4 แล้วยังไม่ตอบกลับมา จึงได้ให้ประกันตัวชั่วคราวออกไปก่อน

จนล่าสุด 1 มิ.ย. 2564 ศาลจังหวัดมุกดาหารอนุมัติหมายจับลุงพล ในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงข่าวในวันนี้ (2 มิ.ย. 2564)

ไล่เรียงไทม์ไลน์ นายไชยพล ทำตัวน่าสงสารจนชาวเน็ตเทใจให้จนกลายเป็นคนดัง