โคราช พบผู้ป่วยเลือดออกในสมองหลังฉีดวัคซีน 2 วัน อยู่ระหว่างวินิจฉัย

28 พฤษภาคม 2564

โคราช พบอาการเลือดออกในสมองหลังฉีดวัคซีน 2 วัน แพทย์แจงผู้ป่วยมีอาการผิดปกติมาก่อน อยู่ระหว่างวินิจฉัยฟันธงไม่ได้ ล่าสุดสามารถหายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ยังไม่รู้สึกตัว

วันนี้ (28 พ.ค.2564) ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา นายชรินทร์  ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายแพทย์วิญญู  จันทร์เนตร รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมาและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในฐานะคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุมครั้งที่ 92/2564 ผ่านเครือข่าย (Web Conference) โปรแกรม ZOOM ในระเบียบวาระการดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดโรคติดต่อในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและข้อสั่งการของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ 
 

ในระเบียบวาระแจ้งเพื่อทราบ ผู้แทนแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์ขณะนี้ได้ดูแลรักษาผู้ป่วยรวม 56 ราย โดยมี 5 ราย อาการหนักต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ภาพรวมสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก 83 เตียง ส่วนความคืบหน้าผู้ป่วยที่มีอาการต่อเนื่องหลังฉีดวัคซีน 2 วัน โดยมีเลือดออกในสมอง ล่าสุดสามารถหายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติแต่ยังไม่รู้สึกตัว เบื้องต้นได้ประสานแจ้งให้ญาติผู้ป่วยทราบแล้ว จากการตรวจสอบประวัติผู้ป่วยมีอาการผิดปกติของเส้นเลือดในสมองมาก่อนหน้าที่จะฉีดวัคซีน ภายในวันนี้จะดำเนินการตรวจสอบระบบประสาทและสมองของผู้ป่วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการวินิจฉัยโดยละเอียด 

นายชรินทร์ รอง ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า อาการข้างเคียงของของผู้ป่วยรายนี้มิได้เกิดจากการฉีดวัคซีนเพียงอย่างเดียว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอาการเจ็บป่วยหรือโรคประจำตัวมาประกอบการพิจารณาร่วม ดังนั้นจะระบุสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนไม่น่าจะยืนยันได้ 

ด้าน นพ.วิญญู รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า กำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ให้ได้ 70% ของจำนวนประชากร 1,885,023 คน ขณะนี้ดำเนินการฉีดสะสม 83,377 ราย คิดเป็น 4.42 % การจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดในแต่ละเดือน เดือนมิถุนายน ได้รับวัคซีน 147,000 โดส ,เดือนกรกฎาคม 9.2 หมื่นโดส เดือนสิงหาคม 450,000 โดส เดือนกันยายน 1,198,000 โดส ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 32 อำเภอ ต้องเตรียมปรับแผนการจัดสรรคิวรับการฉีดให้พร้อม เนื่องจากจำนวนวัคซีนไม่ได้ถูกจัดสรรเข้ามาในครั้งเดียว โดยเฉพาะเดือนกันยายนจะมีวัคซีนเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากต้องมีการเตรียมความพร้อมให้รอบครอบรัดกุมเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ