วันพฤหัสบดี (20 พ.ค.) อลัน จอยซ์ ซีอีโอของสายการบินควอนตัส กล่าวว่าสายการบินอาจขาดทุนราว 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 3.89 แสนล้านบาท) ในช่วงกลางปีนี้ โดยมาตรการลดต้นทุนที่จะตามมานั้น จะรวมถึงการตรึงค่าจ้างและโครงการออกจากงานโดยสมัครใจ สำหรับลูกเรือประจำเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ควอนตัสคาดว่าจะมีลูกเรือหลายร้อยคนเข้าร่วมโครงการออกจากงานโดยสมัครใจ หลังจากสายการบินได้ปลดพนักงานไปแล้ว 8,500 คนนับตั้งแต่เกิดการระบาด
ขณะเดียวกันมีพนักงานราว 6,000 คน อยู่ระหว่างการพักงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่ยังมีสถานะเป็นพนักงานอยู่ โดยในพนักงานทั้งหมดราว 22,000 ตำแหน่งของทั้งบริษัท มีอยู่ 16,000 คนที่อยู่ระหว่างการพักงาน ในจำนวนนี้มีทั้งลูกเรือประจำเที่ยวบินในประเทศ พนักงานนั่งโต๊ะทั้งหมด และลูกเรือของเที่ยวบินระหว่างประเทศบางส่วน
“เราต้องบริหารค่าใช้จ่ายของบริษัท โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขัน ท้ายที่สุดแล้วมันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้อีกครั้งในสักวัน” จอยซ์กล่าว
จอยซ์กล่าวว่าแม้จะมีการคาดการณ์ที่ไม่ดีนักแต่ตนยังคงเห็นสัญญาณเชิงบวกอยู่ และบริษัทกำลังมุ่งไปในทิศทางที่ดีอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงการเดินทางในประเทศก็ฟื้นตัวดีขึ้น
สำหรับไตรมาส 2 ที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้ ความสามารถของบริการเที่ยวบินในประเทศของควอนตัสและเจตสตาร์ (Jetstar) สองสายการบินรวมกัน จะฟื้นกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 95 ของระดับช่วงก่อนการแพร่ระบาด และจะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 100 ในปีงบประมาณหน้า
“เราได้ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะสามารถเปิดพรมแดนระหว่างประเทศได้ โดยอิงจากกำหนดการใหม่ของรัฐบาล แต่สมมติฐานขั้นพื้นฐานของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือสามารถเปิดพรมแดนระหว่างประเทศได้เมื่อแผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ดำเนินจนเสร็จสมบูรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ” จอยซ์ทิ้งท้าย
ที่มา xinhuathai