กองปราบปรามปิดฉากล่า "บ่าว สะกอม" ปลิดชีพเพื่อน หนีคดีคำพิพากษา 33 ปี

เมื่อวันที่ 8 พค.2564 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล, พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว รอง ผกก.๖ บก.ป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.แดนรบ สมัยชูเกียรติ, ร.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นิลมิตร, ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ชุดปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันจับกุม นายทิชานนท์ หรือ บ่าว สะกอม หนีคดีคำพิพากษา 33 ปี อำพรางศพเพื่อนหมกกุโบร์

โดยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุม นายทิชานนท์ หรือบ่าว (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ จ.172/2563 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อชีวิต, ความผิดต่อเสรีภาพ, ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ลหุโทษ ความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน ความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ” (หลบหนีคดีไม่ฟังคำพิพากษาในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ, พาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ)
 
จับกุม ภายในห้องพัก บริเวณ ถ.จังโหลน ซ.18 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา 

 ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุฆ่านายปรีชาฯ อายุ 17 ปี โดยอำพรางศพด้วยการใช้เชือกมัดศพ และห่อด้วยผ้าแสลนสีเขียว ขุดหลุมฝังศพลึกลงไปในดิน ประมาณ 1 เมตรภายในกุโบร์ (สุสานฝั่งศพ) บ้านบ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งภายหลังมีชาวบ้านเข้ามาพบว่าบริเวณดังกล่าวมีร่องรอยสัตว์คุ้ยเขี่ยจนเท้าผู้ตายโผล่ขึ้นมา 

ชาวบ้านจึงได้เเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าศพดังกล่าว เป็นศพของนายปรีชาฯ ซึ่งทางญาติได้เเจ้งหายไป ตั้งเเต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2562
 
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า มูลเหตุน่าจะเกิดมาจากการทะเลาะวิวาทและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้จำนวน 4 ราย 

โดยหนึ่งในนั้น คือนายทิชานนท์ หรือบ่าวฯ ฉายา “บ่าว สะกอม” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี
 
ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6.บก.ป. ได้ติดตามจับกุมตัวนายทิชานนท์ฯ ไว้ได้ที่หน้าด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย อ.ปาดังเบซาร์ จ.สงขลา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งระหว่างดำเนินคดี 

นายทิชานนท์ฯ ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่หลังจากนั้นกลับหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษาตามนัด ศาลจังหวัดนาทวี จึงได้ออกหมายจับอีกครั้งหนึ่ง เพื่อติดตามตัวนายทิชานนท์ฯ มารับโทษทางกฎหมาย 
 
ซึ่งในส่วนของผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่น ถูกศาลตัดสินจำคุกคนละ 10 ปี เศษ และได้ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีสอดคล้องกันว่า คนที่ลงมือยิงและฆ่านายปรีชาฯ คือ นายทิชานนท์ หรือ บ่าวฯ
 
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตาม จนทราบเบาะแสว่า นายทิชานนท์ฯ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งติดกับชายแดนประเทศมาเลเซีย ในพื้นที่ ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากรั้วเขตแดนประมาณ 500 เมตร จึงได้วางแผนนำกำลังเข้าทำการปิดล้อม จับกุมและควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดนาทวี ดำเนินการตามกฎหมาย
 
จากตรวจสอบพบว่านายทิชานนท์ฯ ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดี ศาลพิพากษาตัดสินจำคุก 33 ปี โดยไม่รอลงอาญา