ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000

02 พฤษภาคม 2564

เรื่องราวสุดช้ำของ คุณป้าร้านขายของชำ ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ จนต้องออกมาร้องสื่อ หลังไม่ได้รับเงินเยียวยาโควิด โครงการเราชนะ เพราะถูกตรวจสอบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชี3เเสนบาท ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

 2 พ.ค.64  นางมาลัย ยืนยงค์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่9 ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์  ร้องสื่อมวลชนถึงกรณีที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา 7000บาท จากโครงการ"เราชนะ"ของทางรัฐบาล ที่ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนระหว่างช่วงการเชื้อโควิด19ระบาดระลอกใหม่  นางมาลัย ยืนยงค์ กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายของชำเล็กๆอยู่ในหมู่บ้าน  ต.หนองย่างทอย อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ 

 

ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000
 ซึ่งตนเองเป็นหัวหน้าครอบครัวเพราะสามีเสียชีวิตไปหลายปี และเมื่อ3ปี ที่ผ่านมาตนเองต้องเข้ารับการผ่าตัดสะโพก ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนเดิมเป็นคนพิการ ซึ่งตนเองได้รับบัตรเยียวยาคนพิการจากทางรัฐบาล ก็ประกอบกับอาศัยขายของชำเล็กๆน้อยๆ ที่ไปกู้เงินมาลงทุนแต่เมื่อเกิดการระบาดโควิด 19 รอบสองนี้ ทำให้ตนเองขายของไม่ได้ไม่มีรายได้เงินก็จมอยู่กับของที่ซื้อไว้

ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000

เมื่อทางรัฐบาลได้มีโครงการเยียวยาโควิดรอบ 2 โดยใช้ชื่อโครงการเราชนะ ตนเองจึงได้ไปสมัครกับหน่วยบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย เพราะหวังมีรายได้เข้ามาเลี้ยงตัวเองและลูกๆ แต่เมื่อไปยื่นเอกสารเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลับบอกว่า ไม่สามารถทำรายการให้ตนเองได้ เพราะตนเองไม่เข้าข่ายเป็นผู้ได้รับการเยียวยาเพราะมีเงินหมุนเวียนในบัญชี 300,000 บาท 

ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000

 ตนเองได้บอกเจ้าหน้าที่ธนาคารไปว่าตนเองไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวในบัญชี มีเงินติดในบัญชีเพียง 400-800 บาทเท่านั้น มีเพียงเงินที่ขาของหมุนในร้านก็ไม่กี่บาท และตนเองมีเพียงสมุดบัญชีของธนาคารออมสินเพียงเล่มเดียว

ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกลับมาว่า เมื่อปี 2562 ตนเองเสียภาษีกับสรรพากร 4000 บาท ซึ่งขณะนั้นตนเองขายของได้วันละประมาณ 800 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว และตนเองได้นำสมุดบัญชีออมสินของตนเองไปอัพเดตเพื่อตรวจสอบก็ปรากฏว่าไม่มีจำนวนเงินถึง 300,000 แต่อย่างใด

ป้าร้านขายของชำ กางสมุดบัญชีให้ดู สุดช้ำไม่ได้รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000

ตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมธนาคารกรุงไทยถึงตรวจสอบสถานะสิทธิของตนเองแบบนั้นซึ่งสอบถามไปอีกหลายครั้งเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ยืนยันว่าตนเองมีเงินในบัญชีจำนวนดังกล่าว และไม่ใช่เพียงแค่ตนเอง มีชาวบ้านในหมู่บ้านที่ไม่ได้รับการเยียวยาเพราะตรวจสิทธิไม่ผ่านอีกหลายราย แต่กรณีของตนเองนั้นแปลกออกไปที่ทำไมธนาคารถึงตรวจสอบสิทธิของตัวเองไม่ผ่านและหาว่ามีเงินในระบบธนาคารเกิน 300,000 บาท ตนเองจึงอยากขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบให้อีกครั้ง เพราะขณะนี้ตนเองก็ได้รับความเดือดร้อน และอยากให้เป็นเคสตัวอย่างให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม เพราะคนรวยยังสามารถทำได้ ทำไมคนจนๆอย่างตนเองถึงทำไม่ได้