สาวกดดันแฟนหนุ่ม เมื่อไหร่จะได้แต่งงาน กลับเจอคำตอบ แต่งเมื่อไหร่ชีวิต

10 มีนาคม 2564

สมาชิกพันทิปรายหนึ่ง ตั้งกระทู้เล่าถึงปัญหาชีวิต หลังจากที่เธอคบกับแฟนหนุ่มมานานถึง 6 ปี แต่เพิ่งมารู้ความจริงว่าฝ่ายชายติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์)

จากกรณีสมาชิกพันทิปหมายเลข 6352785 โพสต์ตั้งกระทู้หัวข้อ "เมื่อรู้ว่าแฟนตัวเอง ติดเชื้อ Hiv เราจะไปต่อหรือพอแค่นี้??" หลังจากที่เธอคบกับแฟนหนุ่มมานานถึง 6 ปี จนกระทั่งคุยกันเรื่องแต่งงาน ก่อนได้รับคำตอบจากฝ่ายชายว่า แต่งเมื่อไหร่เธอจะตาย พร้อมเผยสาเหตุว่าความจริงฝ่ายชายติดเชื้อ HIV (โรคเอดส์) โดยที่ไม่บอกให้เจ้าของกระทู้ได้รู้มาก่อน

เจ้าของกระทู้โพสต์ข้อความระบุว่า... สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกของเราค่ะ ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ เมื่อ 6 ปีก่อน เราคบผู้ชายคนนึง สถานะคือเป็นแฟน เขาเป็นคนใต้ ทำสวนยางสวนปาล์มประกอบอาชีพอยู่ที่ใต้ ส่วนเราทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขาจะเดินทางมาหาเราเดือนละ2ครั้ง บางทีเราก็ลงไปหาที่ใต้บ้าง พบปะ ญาติพี่น้องทางเขาโดยเปิดเผยว่าเราเป็นแฟนกัน ทุกอย่างดูราบรื่นไม่มีปัญหา เขาเอาใจใส่ใจเราเป็นอย่างดี จนเมื่อเราคบกันมาช่วงปีที่4เราคุยเรื่องแต่งงาน ทางบ้านเราก็ถามว่าเมื่อไหร่จะแต่ง? เราก็ถามเขาพูดจากดดันเขาทุกอย่าง ทางแม่เขาก็ถามเราทำไมไม่แต่งงานกันซะที ? จะว่าไม่มีค่าสินสอดมันก็ไม่ใช่ เราบอกกับแม่เขาว่า ก็ลูกชายแม่ไม่ยอมแต่ง หนูก็ไม่รุ้จะทำงัย!! ทุกคน งงในงง เพราะดูออกว่าเขารักเรามาก ดูแลดีทุกอย่าง  แต่ทำไม!!!เป็นแบบนี้  วันนึงเราทนไม่ไหวกับคำถาม เราเลยบอกเขาว่าถ้าไม่แต่งก็ขอเลิกนะ จบๆกันไป.....เขาเงียบไปสักพัก แล้วพูดมาว่า ถ้าแต่งงาน เราจะตาย!! โอ้ อะไรเนี่ย!!

แค่แต่งงานจะตายทำไม บ้าไปแล้วว เราทั้งเครียดทั้งงง มันเกิดไรขึ้น!!! "ผมเป็นเอดส์!!!" เราตั้งสติ2นาที ถามกลับไปว่า เป็นมานานรึยัง??นานแล้ว  ในใจคิดว่า งานเข้าล่ะ ซวยแล้วกู แต่ก็ยังไม่เชื่อ ขอดูยาที่เขากินต้านอยู่ ซึ่งเขาก็ส่งมาให้ดูเอาชื่อยาไปค้นหาในกูเกิ้ล ตอนนั้นสมองแทบจะระเบิด!ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เราจะป้องกันทุกครั้งแต่เราก็กังวลว่ามันอาจจะพลาด เราอาจได้รับเชื้อจากเขา คิดไปสารพัดสารเพแต่เราเป็นคนบริจาคเลือดทุก3เดือนสม่ำเสมอมาตลอด ทางสภากาชาดก็ไม่เคยแจ้งว่าเลือดผิดปกติ ก็บริจาคได้ตลอด เราเครียดมาก ตัดสินใจไปคลีนิคนิรนาม ของสภากาชาดไทยเลยค่ะ ไปเล่าให้หมอฟัง

ผลออกมาเป็นลบ ก่อนไปเราคุยโทรศัพท์กับแฟน เขาบอกว่า ผลออกมาต้องยอมรับและทำใจนะ อ้าวเห้ย ตลอดเวลาที่คบกันเราซื่อสัตย์กับเขาตลอด ไม่เคยใช้ชีวิตแบบเสี่ยงๆหรือมั่ว คุณไปติดมา รู้ตัวมาตลอดว่ามีเชื้อแต่ยังมาคบเราและปิดบังเราคุณเห็นแก่ตัวมากนะ ไม่ว่าผลจะลบ จะบวก เรายืนยันจะเลิกกับเขา ไม่ใช่รังเกียจเขานะ เราโกรธที่โกหกกันมานานหลายปี ซึ่งผลตรวจของเราออกมาเป็นลบ ปัจจุบันเราเลิกกับเขาแล้ว เราไม่รุ้ว่าเขาจะไปหลอกคนอื่นอีกมั้ย เขาดูดี ตัวสูงหน้าตาคมสไตร์คนใต้ มองไม่รุ้ดูไม่ออกว่ามีเชื้อ ฝากไว้ค่ะ ถ้าเลือกจะคบใครให้แน่ๆ ชวนไปตรวจเลือดเลยค่ะ โลกของความจริงไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิด

 

 

สาวกดดันแฟนหนุ่ม เมื่อไหร่จะได้แต่งงาน กลับเจอคำตอบ แต่งเมื่อไหร่ชีวิต

 

 

*หมายเหตุ ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา