ลูกสาวยายตกปลา ร่ำไห้ คืนเงินแม่ เสียใจคิดเป็นอื่น

ลูกสาวยายตกปลา ร่ำไห้ ต้องคืนเงินให้แม่ทั้งสิ้น 672,700 บาท เสียใจคิดเป็นอื่นทั้งที่ทุกบาทใช้ไปกับสิ่งจำเป็น
จากกรณีนางสาลี่ นวลจันทร์ วัย 78 ปี หญิงชราที่เคยตกเป็นข่าวเมื่อปี 63 กับการนั่งตกปลาประทังชีวิตอยู่ริมถนน ได้ออกมาเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวชีวิตอีกครั้งหลังได้ไปอยู่กับ นางสาวบุญยิ่ง วัย 55 ปี ลูกสาวของตน และได้ให้เงินไปต่อเติมบ้านจำนวนเงิน 170,000 บาท เพราะลูกสาวขอนอกจากนี้ยังยึดบัตรเอทีเอ็มของตนไปอีก และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนจึงนำสมุดบัญชีไปอายัดบัตรเอทีเอ็มและตรวจสอบยอดพบว่า เหลือเงินเพียง 19,953 บาท
ซึ่งหลังจากนั้นลูกสาวได้พูดจาด่าทอตนไล่ให้ไปตายบ้าง ไล่ให้กลับมาอยู่ห้องเช่าแถมพูดว่าตัดแม่ตัดลูกกันไปเลย จึงทำให้นางสาลี่ น้อยใจและขอแรงเพื่อนบ้านขนของกลับไปเช่าห้องตามเดิมทางนางสาวบุญยิ่ง ลูกสาว นางสาลี่ กล่าวว่าเรื่องที่แม่เล่านั้นไม่เป็นความจริงเพราะเงินที่เอาไปต่อเติมบ้านเพียง 200,000 บาทเท่านั้น ส่วนเงินที่เหลือใช้เป็นค่าอาหาร ค่ายา ค่าเดินทางพานางสาลี่ไปหาหมอ
ล่าสุดทั้งสองได้มาตกลงกันที่สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ พม. จังหวัด ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการตกลงกัน ได้ข้อสรุปว่า นางสาวบุญยิ่ง ต้องคืนเงินให้แม่ทั้งสิ้น 672,700 บาท โดยตนได้ขอ นางสาลี่ ผ่อนใช้เดือนละ 3,000 บาท ในทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน รวมทั้งสิ้น 18 ปี จนกว่าแม่จะมีอันเป็นไป ส่วนเรื่องไล่แม่เธอเพียงพูดไปเพราะอารมณ์เท่านั้นไม่มีเจตนาจะไล่จริงๆ ฝั่งนางสาลี่เองได้กล่าวหลังเคลียร์กับลูกสาวแล้วว่าตนขอไปเช้าห้องอยู่กับพี่สาวคือนางมณี แก้วอุไร วัย 85 ปี เหมือนเดิมดีกว่าเพราะรู้สึกสบายใจอยู่กับลูกสาว