นายหน้าขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกม. จนมุมคาปั๊มน้ำมันเมืองสุราษฎร์

26 กุมภาพันธ์ 2564

นายหน้ายังเห็นแก่ตัวไม่หยุด ลักลอบขนแรงงานด่างด้าวเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย แต่คราวนี้ไปไม่รอดถูกรวบคาปั๊มน้ำมัน

จากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระยาดของโรคโควิด 19 ที่เกิดจากกุ่มคนบางกลุ่มได้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมไปถึงเหล่านายจ้างที่ลักลอบขนแรงงานเข้าเมืองไทยโดยไม่ผ่านการคัดกรอง ทำให้การแพร่กระจายของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ทางรัฐบาลได้จัดงานกองกำลังเฝ้าชายแดนอย่างเข้มงวด 

แต่ทว่าก็ยังมีเหล่านายจ้างบางกลุ่มไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่จะต้องพาลูกจ้างเข้าทางธรรมดาโดยถูกกฎหมายเพื่อจำกัดและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และล่าสุดที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ได้สกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนส่งพื้นที่กรุงเทพ - สมุทรสาคร เอาไว้ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เบื้องต้นพบแรงงานต่างด้าว 18 คน เด็กเล็ก 5 เดือนเศษและ 12 ขวบรวมอยู่ด้วย

 


โดยพ.ต.ท.ชาตรี ชูแก้ว รอง ผกก ตม.สุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าชุดจับกุม ตม.สฏ. กก 47 , นาย พลกฤษณ์ สุดสวาท ปลัดอําเภอท่าฉาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ขณะจอดอยู่ในปั๊มน้ำมัน หมู่ 4 ตำบลคลองไทร อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการตรวจสอบพบรถตู้จำนวน 2 คัน

 


ภายในรถมีชาวเมียนมาอยู่ภายใน ซึ่งคันแรกมีจำนวน 7 คน คันที่ 2 มีจำนวน 9 คน และ มีเด็กอ่อน 5 เดือน 1 คน และ 12 ขวบ อีก 1 คน ซึ่งจากการตรวจสอบมีหนังสือเดินทางเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย 7 คน ส่วนอีก 9 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง นอกจากนั้นยังมีรถยนต์ที่ใช้ขนสัมภาระหลบหนีไปได้อีก 1 คัน

ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีการลักลอบนำแรงงานชาวเมียนมาข้ามจังหวัดโดยผิดกฎหมาย จึงนำกำลังเข้าซุ่มสังเกตการณ์ เมื่อขบวนรถตู้ขนแรงงานต่างด้าวเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันจึงเข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมในทันที ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้น นายพิษณุสิน อิ่มบุญสุ รับว่า ตนเองนำแรงงานต่างด้าว ที่ออกเดินทางจากมาเลเซีย และ ในหลายจังหวัดทางภาคใต้ เพื่อที่จะนำไปส่งพื้นที่กรุงเทพมหานคร - สมุทรสาครและบางส่วนจะเดินทางไปกลับประเทศ

 


อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อสม ตำบลคลองไทร เข้าตรวจสอบโรค ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไป ที่สถานีตำรวจภูธรท่าฉาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ต่อไป

 

 

อ่านโพสต์ต้นฉบับ