เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานประชุมกรรมการบริหารพรรค พิจารณากรณีสมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบที่มีต่อพรรค อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมข้อบังคับของพรรค สืบเนื่องจากกรณี 7 ส.ส. ประกอบด้วย 6 ส.ส.จากกลุ่มดาวฤกษ์ ที่เป็นส.ส.กทม. คือ นางกรณิศ งามสุคนรัตนา น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ และนายศิริพงษ์ รัสมี รวมทั้ง น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่งดโหวตให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง ที่งดลงมติให้กับนายจุรินทร์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ที่ประชุมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะเชิญทั้ง 7 ส.ส. มาตรวจสอบข้อเท็จจริง และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ โดยมี นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคเป็นประธาน มีเวลาตรวจสอบ 15 วัน เมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอต่อกก.บห. แต่เบื้องต้นจะไม่มีบทลงโทษ แต่ในฐานะสมาชิกพรรคต้องร่วมมือกันตามจิตสำนึก อุดมคติในฐานะเป็นเจ้าของพรรคร่วมกัน
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐแจ้งว่า ในการประชุมบรรยากาศคุกรุ่น พล.อ.ประวิตร มีท่าทีไม่พอใจต่อการกระทำของ 7 ส.ส.อย่างมาก โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “โหวตอย่างนี้รับไม่ได้ แล้วไม่ต้องโพสต์อะไรอีก อย่างนี้มันต้องขับออก ไปรับปากเขามาเขาก็ให้เราเต็มแต่เรามีปัญหา พรรคเราเสียหายมันต้องมีบทลงโทษ ทำไมตอนถามในการประชุมพรรค 19 ก.พ.ว่ามีปัญหาอะไร แล้วไม่บอก”
ส่งผลให้กรรมการบริหาร ที่ร่วมประชุมต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะไม่ค่อยเห็น พล.อ.ประวิตร แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ขณะที่ กรรมการบริหารบางคนยกข้อกฎหมายขึ้นมาอธิบายว่า ส.ส.มีเอกสิทธิ์ มีอิสระในการลงมติตามรัฐธรรมนูญ ทำให้นายไพบูลย์เสนอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณา
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้น น.ส.วทันยา พยายามโทร.หา พล.อ.ประวิตร เพื่อชี้แจง แต่ พล.อ.ประวิตรไม่รับสาย