รู้ทันเจ็ตแล็ก เคล็ดลับปรับร่างกาย เที่ยวข้ามโซนก็สดชื่นได้

ตื่นครบ 8 ชั่วโมง แต่ยังเพลีย? ระวัง 5 พฤติกรรมตอนเช้า ที่ดูดพลังงานทั้งวันโดยไม่รู้ตัว

หลายคนเข้าใจว่าแค่นอนให้ครบชั่วโมง ร่างกายก็จะสดชื่นพร้อมลุยทั้งวัน แต่ในความเป็นจริง กลับพบว่าคนจำนวนมากยังรู้สึกง่วง มึน สมองไม่แล่น ทั้งที่นอนเพียงพอแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนและสุขภาพอธิบายว่า “พฤติกรรมช่วง 30 นาทีแรกหลังตื่นนอน” มีผลอย่างมากต่อระดับพลังงานตลอดทั้งวัน

1. หยิบมือถือทันทีที่ลืมตา

การเช็กมือถือ โซเชียล หรือข่าวสารทันทีหลังตื่น จะกระตุ้นสมองให้เข้าสู่โหมดเครียดเร็วเกินไป ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลพุ่งสูง ส่งผลให้รู้สึกล้า สมองตึง และหมดแรงง่าย แนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 15–30 นาที

2. ดื่มกาแฟก่อนดื่มน้ำ

หลังตื่นนอน ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำเล็กน้อย หากรีบดื่มกาแฟทันที จะยิ่งทำให้ร่างกายเสียสมดุล ควรเริ่มด้วยน้ำเปล่า 1 แก้ว เพื่อปลุกระบบไหลเวียนก่อน

3. ไม่รับแสงแดดตอนเช้า

แสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าคือสัญญาณสำคัญที่ช่วยตั้งนาฬิกาชีวภาพ หากตื่นแล้วอยู่ในห้องมืดตลอด จะทำให้ร่างกายยัง “เข้าใจผิด” ว่ายังเป็นเวลากลางคืน ส่งผลให้ง่วงทั้งวัน

4. ลุกจากเตียงแบบเร่งรีบ

การลุกพรวดจากเตียงทันที อาจทำให้ความดันเปลี่ยนฉับพลัน เกิดอาการมึนศีรษะ อ่อนแรง ควรขยับตัวเบาๆ ยืดเส้น 1–2 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับตัว

5. งดอาหารเช้าเป็นประจำ

การไม่ทานอาหารเช้าทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลให้สมองทำงานช้าลง หงุดหงิดง่าย และเพลียเร็ว โดยเฉพาะหากต้องใช้สมองหรือแรงงานในช่วงเช้า

 

วิธีรีเซ็ตร่างกายให้สดขึ้นตั้งแต่เช้า

-   ดื่มน้ำทันทีหลังตื่น

-   เปิดม่านรับแสงแดด

-   ยืดเหยียดร่างกายเบาๆ

-   ทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนและไฟเบอร์

-   ค่อยดื่มกาแฟหลังตื่นอย่างน้อย 30 นาที

สรุป

ความสดชื่นในแต่ละวัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงนอนเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ “วิธีเริ่มต้นวัน” หากปรับพฤติกรรมเล็กๆ ในตอนเช้าได้ถูกต้อง ร่างกายจะมีพลัง สมองปลอดโปร่ง และอ่อนล้าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
 

แหล่งที่มาอ้างอิง

Centers for Disease Control and Prevention (CDC): Jet Lag Disorder

Sleep Foundation: How to Prevent and Treat Jet Lag

Mayo Clinic: Jet lag – Symptoms and causes