กินอาหารขยะไม่กี่วัน สมองพัง! งานวิจัยชี้ ความจำถดถอยใน 4 วัน

หลายคนอาจคุ้นชินกับ การกินอาหารขยะในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย ไก่ทอด หรือของทอดต่างๆ โดยคิดว่าเป็นเพียงอาหารที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า อาหารไขมันสูงสามารถส่งผลเสียต่อสมองได้รวดเร็วเกินคาด

ผลการศึกษาจากนักวิจัยในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า หลังจากบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงติดต่อกันเพียงไม่กี่วัน สมองส่วน ฮิปโปแคมปัส ซึ่งทำหน้าที่สำคัญด้านการเรียนรู้และความจำ จะเริ่มทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการจดจำและการคิดลดลงอย่างเห็นได้ชัด

นักวิจัยอธิบายว่า อาหารไขมันสูงจะไปรบกวนการทำงานของเซลล์ประสาทบางชนิดที่ควบคุมวงจรความจำ เมื่อระบบนี้เสียสมดุล สมองจะใช้ กลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดอาการมึนงง คิดช้าลง ง่วงง่าย และสมาธิสั้น

 

การทดลองในสัตว์ยังสนับสนุนผลดังกล่าว โดยพบว่า หนูที่ได้รับอาหารไขมันสูงมีความผิดปกติของวงจรความจำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์ประสาทต้องทำงานหนักเกินไปจนส่งผลให้ความสามารถในการจดจำลดลง แม้จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สมองยังสามารถฟื้นฟูได้ หากมีการปรับพฤติกรรมการกินอย่างเหมาะสม การลดอาหารไขมันสูง เพิ่มอาหารที่มีประโยชน์ และควบคุมระดับพลังงานที่ร่างกายได้รับ จะช่วยให้การทำงานของสมองกลับมาดีขึ้น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังในระยะยาว เช่น โรคอ้วน ภาวะสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์

เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่า การเลือกอาหารในแต่ละวัน ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อรูปร่าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพสมองโดยตรง และอาจกระทบความจำของเราเร็วกว่าที่คิด

 

แหล่งที่มาอ้างอิง

งานวิจัยจาก University of California

ข้อมูลด้านประสาทวิทยาและโภชนาการเกี่ยวกับสมอง