สุขภาพ-ความงาม

heading-สุขภาพ-ความงาม

8 เหตุผลที่คุณไม่ควร “ขยี้ตา” อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างถาวร

30 ต.ค. 2568 | 11:04 น.
8 เหตุผลที่คุณไม่ควร “ขยี้ตา” อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างถาวร

“ขยี้ตา” พฤติกรรมนี้อาจทำให้ดวงตาเสียหายถาวร ทั้งกระจกตาโป่งพอง เสี่ยงต้อหิน เส้นเลือดฝอยแตก และยังเร่งให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย

พฤติกรรมเล็กๆ ที่สร้างปัญหาใหญ่

การขยี้ตาเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกคัน ระคายเคือง หรือเมื่อยล้าดวงตา หลายคนมักมองข้ามว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่ในความจริงแล้ว การขยี้ตาบ่อยครั้งหรือรุนแรงเกินไป สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อดวงตาและผิวรอบดวงตาได้ ทั้งในแง่สุขภาพและความงาม

8 เหตุผลที่คุณไม่ควร “ขยี้ตา” อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างถาวร

ผลกระทบโดยตรงต่อดวงตา

1. ทำลายกระจกตาและก่อให้เกิดโรคกระจกตาโป่งพอง (Keratoconus)

แรงกดซ้ำๆ จากการขยี้ตาสามารถทำให้กระจกตาอ่อนแอและเปลี่ยนรูปร่างจนโป่งนูนเป็นรูปกรวย ส่งผลให้เกิดภาวะสายตาเอียงรุนแรง มองเห็นภาพบิดเบี้ยว และอาจสูญเสียการมองเห็นในระยะยาว

2. เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในตา

มือของเรามีเชื้อโรคสะสมมากมาย เมื่อขยี้ตา เชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่เยื่อบุตาโดยตรง ทำให้เกิดตาแดง เยื่อบุตาอักเสบ หรือแม้แต่ “ตากุ้งยิง” ได้ง่ายขึ้น

3. กระตุ้นอาการภูมิแพ้และอาการคันมากขึ้น

แม้จะรู้สึกสบายชั่วครู่ แต่การขยี้ตาจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่ง “ฮิสตามีน” มากขึ้น ทำให้ตาบวมแดงและคันยิ่งกว่าเดิม เป็นวัฏจักรที่ยิ่งขยี้ก็ยิ่งคัน

4. ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้เยื่อบุตาแตก

แรงกดจากการขยี้ตาอาจทำให้เส้นเลือดฝอยแตก เกิดเลือดออกใต้เยื่อบุตา (Subconjunctival Hemorrhage) ทำให้ตาขาวมีรอยแดงชัด แม้ไม่อันตราย แต่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย

5. เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต้อหิน (Glaucoma)

แรงกดซ้ำๆ จากการขยี้ตาอาจทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้น หากทำบ่อยครั้งอาจกระทบต่อประสาทตา และเพิ่มความเสี่ยงต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการตาบอดถาวร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

8 เหตุผลที่คุณไม่ควร “ขยี้ตา” อาจส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างถาวร

ผลเสียต่อความงามรอบดวงตา

6. หนังตาหย่อนคล้อยและตาปรือ

การขยี้ตาซ้ำๆ ทำให้กล้ามเนื้อและเอ็นรอบดวงตายืดออก จนเกิดภาวะหนังตาหย่อน ดวงตาดูง่วงนอน หรือบดบังการมองเห็นบางส่วน

7. เกิดริ้วรอยก่อนวัย

ผิวรอบดวงตาบางมาก การขยี้แรงๆ จะทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินเสื่อมสภาพเร็ว ส่งผลให้เกิดตีนกาและรอยย่นก่อนวัย

8. ใต้ตาคล้ำและหมองคล้ำ

แรงกดและการอักเสบจากการขยี้ตา ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่งผลให้ใต้ตาคล้ำ ดูโทรม และไม่สดใส

 

วิธีบรรเทาอาการคันโดยไม่ต้องขยี้ตา

ประคบเย็น: ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบเบาๆ ช่วยลดอาการบวมและคัน

ใช้ยาหยอดตา: หากเกิดจากตาแห้งหรือภูมิแพ้ ให้ใช้น้ำตาเทียมหรือยาหยอดตาแก้แพ้ตามคำแนะนำแพทย์

ล้างมือให้สะอาด: ก่อนสัมผัสดวงตาควรล้างมืออย่างน้อย 20 วินาที

พักสายตา: มองไกลทุก 20 นาที ลดความเมื่อยล้าจากการใช้หน้าจอ


สรุป

“ดวงตา” เป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อนและสำคัญ การขยี้ตาเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายได้ในระยะยาว ควรปรับพฤติกรรม หันมาใช้วิธีบรรเทาอาการคันอย่างถูกต้อง เพื่อถนอมการมองเห็นและรักษาความสดใสรอบดวงตาให้อยู่กับเราไปนานที่สุด

แหล่งที่มาอ้างอิง

American Academy of Ophthalmology (AAO) – Why Rubbing Your Eyes Can Be Harmful

Mayo Clinic – Eye Health: How to Protect Your Eyes

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข – “ข้อควรระวังในการดูแลสุขภาพดวงตา”

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"รู้จักแร่แรร์เอิร์ธ ทรัพยากรสำคัญต่อเทคโนโลยีอนาคตของไทย"

"รู้จักแร่แรร์เอิร์ธ ทรัพยากรสำคัญต่อเทคโนโลยีอนาคตของไทย"

ราคาทองวันนี้ วันที่ 30 ต.ค. 68 ราคาทองมีปรับตัวอีกครั้งที่ 22

ราคาทองวันนี้ วันที่ 30 ต.ค. 68 ราคาทองมีปรับตัวอีกครั้งที่ 22

เตือนอย่าหยุดยาคุมไขมัน หมอชี้ช่วยลดเสี่ยงสมองเสื่อมได้

เตือนอย่าหยุดยาคุมไขมัน หมอชี้ช่วยลดเสี่ยงสมองเสื่อมได้

"น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่า สุขภาพดีขึ้น กินนมวันละ 4,000 ml.

"น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่า สุขภาพดีขึ้น กินนมวันละ 4,000 ml.

ดื่มบ่อยเกินไป เสี่ยง “สะสมสารตะกั่ว” กระทบสุขภาพระยะยาว

ดื่มบ่อยเกินไป เสี่ยง “สะสมสารตะกั่ว” กระทบสุขภาพระยะยาว