ทำไมเรียก "ขนมบ้าบิ่น" เปิดที่มาชื่อขนมแสนอร่อย นุ่มหนึบ ไม่เหมือนชื่อ

กินกันยัง "ขนมบ้าบิ่น" ขนมไทยอย่างหนึ่ง ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับมะพร้าวและนํ้าตาลทรายรวมถึงไข่ไก่ ทำให้สุกด้วยการผิงไฟล่างไฟบน มีลักษณะเป็นชิ้นเล็ก ๆ แบน ๆ เป็นขนมที่มีที่มาจากขนมโปรตุเกสเช่นเดียวกับขนมไทยอีกหลาย ๆ ประเภท แต่ขนมบ้าบิ่นน่าจะถือกำเนิดในยุครัตนโกสินทร์ 

 

 

 

 

 

ที่มาของชื่อ "ขนมบ้าบิ่น" ทำไมเรียกแบบนี้ ?

ชื่อของขนมบ้าบิ่นมีที่มาด้วยกันสองกระแส บ้างก็ว่ามาจากผู้ที่เป็นเจ้าของตำรับซึ่งเป็นชาวชุมชนกุฎีจีนชื่อ "แม่บิ่น" 

โดยครั้งแรกใช้ชื่อว่า "ขนมป้าบิ่น" และเรียกเพี้ยนจนกลายเป็นบ้าบิ่นในที่สุด

ขณะที่อีกกระแสหนึ่งกล่าวว่า ด้วยความที่ขนมบ้าบิ่นมีที่มาจากขนมโปรตุเกสชื่อ กลชาดาซ เดอ กรูอิงบรา ซึ่งใช้เนยแข็งเป็นวัตถุดิบ แต่เรียกกันติดปากเพียงคำสุดท้าย คือ "บรา"

และต่อมาเพิ่มคำว่า "บิ่น" เข้าไป จนกลายมาเป็นขนมบ้าบิ่นในที่สุด โดยแหล่งของขนมบ้าบิ่นที่ขึ้นชื่อ คือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

 

แจกสูตรขนมบ้าบิ่น สูตรบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

สูตรนี้สุดฮิต เป็นขนมบ้าบิ่นสูตรเดิมๆเพิ่มเติมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป เหนียวนุ่ม ยิ่งใช้เทคนิคย่างไฟอ่อนไปเรื่อยๆให้แป้งด้านนอกกรอบๆ กินร้อนๆกรอบนอกนุ่มใน เหนียวหนึบหอมมะพร้าวกับกะทิ อื้อหืม ฟินอย่าบอกใคร ใครทำก็ได้แค่มีเตากับกระทะกระทะเทฟล่อน อยู่คอนโดหรือหอพักก็ทำได้สบาย ไปเริ่มทำกันเลย

ส่วนผสม ขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

- แป้งข้าวเหนียวขาว 1 ถ้วย (หรือแป้งข้าวเหนียวดำผสมแป้งข้าวเหนียวขาวเล็กน้อย)

- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (ปรับความหวานได้ตามหรือปรับชนิดน้ำตาลได้ตามชอบเลย)

- กะทิสด 1/2 ถ้วย

- เกลือป่น 1-2 หยิบมือ

- เนื้อมะพร้าวอ่อน 2 ถ้วย (ขูดเป็นชิ้นหยาบ ๆ)

- น้ำมัน (สำหรับทากระทะใช้น้ำมันพืชหรือจะเลือกเป็นน้ำมันมะพร้าวก็ได้สำหรับคนที่รักษาหุ่น)

 

 

วิธีทำขนมบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน

- ผสมส่วนผสมทั้งหมด แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย กะทิ และเกลือป่น ให้เข้ากัน คนเรื่อยๆจนน้ำตาลละลาย

- ใส่เนื้อมะพร้าวขูดลงไปคนผสมให้เข้ากัน หากอยากรู้รสชาติให้ลองตั้งกระทะแล้วเทชิ้นเล็กๆลงไปจี่ให้สุกก่อนแล้วลองชิมดูได้ ขาดรสอะไรเติมเข้าไปตามชอบได้เลย

- เมื่อได้รสชาติที่ชอบแล้วให้นำกระทะขึ้นตั้งไฟกลาง ทาน้ำมันพืชที่กระทะบาง ๆ แล้วใช้ช้อนตักส่วนผสมขนมลงไป กดให้แผ่ออกเป็นแผ่น จี่พอสุกให้กลับอีกด้านจนขนมสุกเหลืองสวย ระวังอย่าให้ไฟแรงเกินไปด้านออกขนมอาจจะไหม้ก่อนที่ข้างในจะสุก 

- ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้ว