เหล็กไหล ประวัติความเป็นมา และคุณบัติที่โดดเด่น

01 กันยายน 2565

เปิดประวัติเหล็กไหล และวิธีดูเหล็กไหล คุณบัติเหล็กไหล เหล็กไหลคืออะไร เหล็กไหลมีจริงไหม อานุภาพของเหล็กไหลคืออะไร พบกับคำตอบได้ในบทความนี้

เปิดประวัติเหล็กไหล และ วิธีดูเหล็กไหล คุณบัติเหล็กไหล เหล็กไหลคืออะไร เหล็กไหลมีจริงไหม อานุภาพเหล็กไหลคืออะไร พบกับคำตอบได้ในบทความนี้

เหล็กไหลคืออะไร 

เหล็กไหลมีอยู่หลายชนิด เหล็กไหลมีลักษณะคล้ายหินมีสีดำเงาวาว เมื่อโดนไฟจะสามารถยืดออกได้ พบมากทางภาคใต้ของประเทศไทย

เหล็กไหล ประวัติความเป็นมา และคุณบัติที่โดดเด่น

เหล็กไหลมีจริงไหม

ตาม ความเชื่อโบราณ กล่าวไว้ว่า คนที่จะสามารถเห็นเหล็กไหลได้ หรือ ครอบครองเหล็กไหลได้ ต้องเป็นคนมีบุญบารมีสูงพอสมควรที่จะได้เห็นเหล็กไหล และสามารถจับหรือครองครองเหล็กไหลได้ ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะเห็นเป็นเพียงแค่ก้อนหินธรรมดาเท่านั้น 

ประวัติเหล็กไหล

เหล็กไหล เป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อโบราณกล่าวไว้ว่ามีหลายชนิดมากมาย แต่ที่เชื่อกันแพร่หลายที่สุดนั้นจะฝังตัวอยู่ในถ้ำและมีลักษณะคล้ายนิล ลนไฟให้ยืดได้ เชื่อกันว่าในการไปเอาเหล็กไหลนั้น จะต้องเป็นคนที่มีวิชามีเทคนิคที่จะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหลแล้วใช้ไฟลนเหล็กไหลถึงจะออกมาให้เห็น โดยการออกมากินน้ำผึ้งพร้อมกับเล่นไฟ แล้วก็ลนไฟไปกระทั่ง เหล็กไหลยืดออกมาเรื่อยๆ จนตัดขาดจากก้อนหินหรือก้อนที่อยู่ในถ้ำออกจากกันและหลุดออกมาเป็นก้อนลักษณะสีดำ 

ทั้งนี้ในการไป ตัดเหล็กไหล นั้นกล่าวกันว่าคนธรรมดานั้นไม่สามารถตัดเหล็กไหลเองได้เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่า เจ้าเขา พญานาคหรือยักษ์รักษาอยู่และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้เข้าไปเอาได้ถ้าผู้นั้นไม่ใช่คนดีมีบุญหรือมีวิชาอาคมแกร่งกล้าพอ และตัวเหล็กไหลนั้นก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่เข้าไปเอาได้ด้วยเช่นกล่าวว่าเคยมีคนเข้าไปตัดเหล็กไหลแล้วเอามือไปจับเหล็กไหลแล้วมีอาการคล้ายถูกฟ้าผ่าหรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเป็นต้น) เหล็กไหลที่ได้นี้กล่าวกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากมักฝังไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครองกล่าวกันว่าจะไม่มีอะไรที่ทำร้ายผู้ที่ครอบครองตัวเหล็กไหลได้ทั้งมีด ปืน หรือแม้กระทั่งระเบิด ดินปืนทุกชนิดไม่สามารถจุดติดได้ในอาณาเขตที่มีเหล็กไหลอยู่

และนี่ก็คือประวัติความเป็นมาของเหล็กไหลและความเชื่อของประเทศไทย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

เหล็กไหล ประวัติความเป็นมา และคุณบัติที่โดดเด่น

คุณบัติเหล็กไหล

มีความเชื่อกันว่า ผู้ที่ได้ครอบครองเหล็กไหลไว้ในตัวจะเป็นคนที่มีวิชา ไม่มีใครสามารถทำอันตรายได้หากยังมีเหล็กไหลอยู่ในตัว 

วิธีดูเหล็กไหล 

เหล็กไหลมีหลายชนิด ต้องแบ่งแยกออกเป็น ดังนี้

ระดับแรก เหล็กไหล มีลักษณะแวววาว ส่วนที่ถูกไฟลนสามารถยืดได้ นับว่าเป็นส่วนที่มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุด ดังเช่น

1. เหล็กไหลปีกแมลงทับ

2. เหล็กไหลโกฐปี

3. เหล็กไหลเงินยวง

4. เหล็กไหลชีปะขาว

5. เหล็กไหลเพชรดำ

6. เหล็กไหลท้องปลาไหล

ระดับสอง รังเหล็กไหล มีลักษณะแวววาว รองจากตัวเหล็กไหล ไม่สามารถลนไฟให้ยืดออกได้ เป็นส่วนที่ห่อหุ่มตัวเหล็กไหลเอาไว้ เป็นฐานรองเหล็กไหลที่แข็งและแน่นคอยยึดติดกับผนังถ้ำ ดังเช่น

1. โคตรเหล็กไหล

2. แร่เกาะล้าน

3. แร่เม็ดมะขาม

4. เหล็กไหลทรหด

ระดับสาม ขี้เหล็กไหล มีลักษณะคล้ายกับน้ำตาเทียน มีสีดำด้าน แข็ง แต่สามารถทุบให้แตกได้ง่าย เกิดจากการที่เหล็กไหลเคลื่อนผ่านทางนั้นแล้วเกิดเป็นขี้เหล็กไหล ไม่มีฤทธิ์ใดๆ

คาถาบูชาเหล็กไหล

การบูชาธรรมธาตุเหล็กไหล ( ตั้ง นะโม 3 จบ )

พุทโธเมนาโถ ธัมโมเมนาโถ สังโฆเมนาโถ สะกะพะจะ บูชา จะ มหาบูชา ท่านผู้ดูแลรักษา ธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ อันทรงฤทธิ์อานุภาพนี้ อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา เหล็กไหลเจริญมา เจริญยิ่ง เจริญดี สิ่งดี ๆ ทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาสู่แก่ตัวข้าพเจ้า เอ่ยชื่อ ......... นามสกุล ......... สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมะ นะมะอะอุ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ 

ตอนกล่าวคาถา “นะ มะ อะ อุ” กำหนดจิตรับพลังเหล็กไหลเข้าไปที่ นะ (หน้าผาก) , มะ (หน้าอก) , อะ (แผ่นหลัง) และ อุ (หน้าท้อง ที่จุดสะดือ)

วิธีดูเหล็กไหล  คุณบัติเหล็กไหล เหล็กไหลคืออะไร เหล็กไหลมีจริงไหม ประวัติเหล็กไหล สรรพคุณเหล็กไหล

ขอบคุณ : เหล็กไหล