GAC Aion Hyper HT เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนหน้า มาพร้อมประตูหลังแบบปีกนก
โดดเด่นด้วยประตูหลัง แบบปีกนก ตัวรถมาในรูปแบบ SUV ขุมพลัง EV ขับเคลื่อนล้อหลัง มีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย ซึ่งล่าสุดเป็นข่าวดีของชาวไทย ที่ GAC Aion Hyper HT เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนหน้านี้อย่างเเน่นอน !
GAC Aion Hyper HT เตรียมเปิดตัวในไทยเดือนหน้า มาพร้อมประตูหลังแบบปีกนก
GAC Aion Hyper HT โดยจะวางแผน จำหน่ายควบคู่ไปกับซีรีย์ "Hyper" อย่าง Hyper GT และ Hyper SSR มาพร้อมขุมพลังทางเลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 400 โวลต์ และ 800 โวลต์ สามารถขับได้ไกลสูงสุด 770 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ดีไซน์ภายนอก
GAC Aion Hyper HT ความยาว 4,935 มม. (194.2 นิ้ว) ความกว้าง 1,920 มม. (75.5 นิ้ว) และความสูง 1,700 มม. (66.9 นิ้ว) โดยมีระยะทางฐานล้อ 2,935 มม. (115.5 นิ้ว) การดีไซน์ไฟหน้าเป็นแบบเรียบง่าย มีม่านระบายอากาศสีดำขนาดเล็กอยู่บริเวณปลายสเกิร์ต กระจังหน้าเป็นรูปทรงเคิร์ฟเว้าเข้าไปเล็กน้อย และจุดเด่นนั้นเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากการออกแบบลักษณะของประตูผู้โดยสารตอนหลังที่เปิดแบบปีกนก ไฟหน้าทรงมน ส่วนไฟท้ายเป็นแบบแนวนอนเปลือกใสภายในรมดำ ชายล่างตัวถังตัดดำรอบคัน มือเปิดประตูเป็นแบบจมลงตัวถัง
ภายในห้องโดยสาร
GAC Aion Hyper HT ติดตั้งพวงมาลัยทรงกลมแบบมินิมอล มาพร้อมกับหน้าจอดิจิตอลดิสเพลย์ขนาดใหญ่ มี Wireless Charger แบบไร้สายให้ 2 ตำแหน่ง แผงคอนโซลกลางเป็นแบบลอยตัวพร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่บริเวณด้านล่าง ผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนเบาะ และเพิ่มที่วางเท้าจากด้านหลังของเบาะหน้าได้ นอกจากนี้เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถพับลงให้แบนราบ สำหรับเป็นที่นอนเวลาออก Road Trip รวมถึงติดตั้ง หลังคากระจกพาโนรามิกเต็มรูปแบบเป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย พวงมาลัยทรงรีสามก้านและหน้าจอ LCD แสดงผลขนาด 14.6 นิ้ว
ระบบ infotainment มาพร้อมระบบปฏิบัติการ ADiGO 5.0 เครื่องเสียงมาพร้อมลำโพง Dolby Atmos จำนวน 22 จุด ที่คอลโซลเกียร์มีแท่นชาร์จไร้สาย 2 จุด ขนาด 50 วัตต์ นอกจากนั้น GAC Aion Hyper HT ทุกรุ่นย่อยยกเว้นรุ่นท็อป ยังสามารถติดตั้ง Luxury Package เพิ่มได้ โดยจะเปลี่ยนไปใช้วัสดุหนัง Nappa, เบาะคู่หน้ามีระบบนวด 10 ตำแหน่ง และเบาะแถวหลังปรับอุ่นได้ ทั้งหมดนี้คิดราคา 12,000 หยวน (ราว 59,000 บาท)
ในส่วนของราคายังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ และจะนำเข้ามาไทยมั้ยอันนี้ยังไม่ทราบได้ แต่ด้วยรูปทรงและ Performance คิดว่าถ้าเข้าไทยอาจจะเป็นที่สนใจมากแน่ๆ ส่วนเรื่องราคาก็ต้องมาลุ้นกันว่าจะน่าจับจองเป็นเจ้าของเเค่ไหนกัน!