ใช้รถต้องรู้! น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท เปลี่ยนที่ระยะเท่าไร ถึงจะดีที่สุด

ใช้รถต้องรู้! น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท เปลี่ยนที่ระยะเท่าไร ถึงจะดีที่สุด 

น้ำมันเครื่อง คืออะไร?

น้ำมันเครื่อง คือ สารหล่อลื่นที่คั่นกลางระหว่างผิวของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนโลหะ สามารถช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอของวัตถุโลหะ ขณะที่มีการเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาสตาร์ตรถ นอกจากนี้ น้ำมันเครื่องยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย ในการช่วยระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน คราบเขม่า และการสะสมสิ่งสกปรกและผงโลหะที่อาจทำให้เกิดการอุดตันภายในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ไปจนถึงการป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพน้ำมัน ซึ่งหากน้ำมันเครื่องหนืดไปหรือหนืดน้อยไป น้ำมันเครื่องจะไม่สามารถไหลเวียนและให้การหล่อลื่นเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. น้ำมันเครื่องธรรมดา
น้ำมันเครื่องธรรมดา หรือ น้ำมันเครื่องปิโตรเลียม (Synthetic) เป็นน้ำมันเครื่องที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม มีระยะทางในการขับใช้งานประมาณ 3,000-5,000 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องธรรมดามีอายุประมาณ 6 เดือน มีราคาถูกที่สุด

2. น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้น้ำมันธรรมชาติเป็นฐาน และเติมสารสังเคราะห์เพิ่ม เพื่อให้มีคุณสมบัติสูงขึ้น ระยะทางการใช้งานประมาณ 7,000 กิโลเมตร มีอายุประมาณ 6-9 เดือน หรือ 1 ปี ราคาปกติจะอยู่ปานกลางระหว่างน้ำมันเครื่องธรรมดาและแบบสังเคราะห์แท้ หลายยี่ห้อมักใช้คำว่า Synthetic หรือศัพท์เฉพาะแทน แต่จะไม่มีคำว่า Fully นำหน้าในฉลาก

3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ หรือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% (Fully Synthetic) เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่เป็นสารสังเคราะห์ดัดแปลง 100% มีสิ่งแปลกปลอมเจือปนน้อย ขับใช้งานยาวนานกว่าน้ำมันเครื่องยนต์แบบอื่น อยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 กิโลเมตร มีอายุประมาณ 1 ปี มีราคาสูง ถือว่าแพงสุดในบรรดาน้ำมันเครื่องทั้งสามแบบ

ส่วนของ น้ำมันเครื่องเกรดรวม คือ น้ำมันเครื่องที่มีตัวเลข 2 ชุด หมายความว่าน้ำมันนั้นสามารถรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์ทั้งในอุณหภูมิสูงและต่ำ น้ำมันหล่อลื่นเกรดรวมช่วยลดความผันแปรของความหนืดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ปกติแล้วตัวเลขชุดแรกของน้ำมันเกรดรวมมักตามด้วย W ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิต่ำ ตัวเลขนี้หมายความถึงความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นในสภาวะอุณหภูมิต่ำ ซึ่งบ่งชี้ว่าน้ำมันจะไหลเทได้อย่างไร ตัวเลขยิ่งน้อยหมายความว่าน้ำมันจะมีค่าความหนืดต่ำ ฟิลม์น้ำมันบางลง ให้การหล่อลื่นในอุณหภูมิต่ำ ตัวเลขชุดที่ 2 ที่อยู่หลัง W หมายถึงความหนืดของน้ำมันภายใต้อุณหภูมิสูง ตัวเลขยิ่งสูงหมายความว่าน้ำมันยังสามารถคงความข้นหนืด และมีความหนาของฟิลม์น้ำมันที่ให้การหล่อลื่นและปกป้องได้ในอุณหภูมิสูง การใช้ความหนืดที่ถูกต้องสำหรับเครื่องยนต์ของคุณช่วยเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ เพิ่มประสิทธิภาพของการจุดระเบิด และการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเกรดสูงสุด เมื่อลากมายาวเป็น 10,000 กิโลเมตรตามอายุการใช้งานที่ระบุไว้ก็ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้ง อย่าไปเสียดายเงิน ควรเลือกไส้กรองของแท้ แม้จะแพงแต่มีประสิทธิภาพดีกว่าของเทียบของเทียมที่มีราคาถูกกว่า หากชอบเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ระยะ 5,000 กิโลเมตร พร้อมกรองน้ำมันเครื่องใหม่ๆ เพื่อเอาใจเครื่องยนต์ ใช้แค่น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดาก็พอครับ ไม่ต้องตะกายไปเล่นเกรดสูงสุดที่แพง และเหมาะกับคนที่ชอบลากกันยาวมากกว่า

สุดท้ายนี้ ทั้ง 3 น้ำมันเครื่องแต่ล่ะประเภท เป็นข้อมูลสำคัญที่จะชี้ไปว่าน้ำมันเครื่องแบบไหนเหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ เลือกใช้ได้แน่นอน ที่เหลือก็คือการพิจารณาเรื่องของราคา และยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้น้ำมันเครื่องที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด