คนขับ Tesla ในสหรัฐถึงกับปวดหัว เจออากาศหนาวจัด แบตหมดไว - ชาร์จไม่เข้า

25 มกราคม 2567

เป็นเรื่องราวในประเทศ สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ประสบกับสภาพอากาศหนาวจัดสุดขั้วมาตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี 2024 เกิดจาก พายุฤดูหนาวถล่ม

คนขับ Tesla ในสหรัฐถึงกับปวดหัว เจออากาศหนาวจัด แบตหมดไว - ชาร์จไม่เข้า

คนขับ Tesla ในสหรัฐถึงกับปวดหัว เจออากาศหนาวจัด แบตหมดไว - ชาร์จไม่เข้า

เนื่องด้วยสภาพอากาศ หนาวจัดที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งปัญหาหนึ่ง คือ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หมดเร็ว และต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่าปกติมาก ไปจนถึงขั้นชาร์จไม่เข้า ทำให้มีการรายงานข่าวว่า รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากต้องจอดรอคิวชาร์จแบตเตอรี่ยาวเหยียดเป็นเวลานานท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก อุณหภูมิต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

สาเหตุที่ Tesla แบตหมดไว-ชาร์จไม่เข้า! 

คนขับ Tesla ในสหรัฐถึงกับปวดหัว เจออากาศหนาวจัด แบตหมดไว - ชาร์จไม่เข้า

ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วพอสมควรว่า แบตเตอรี่ทุกชนิดจะทำงานได้ไม่ดี แบตเตอรี่จะหมดเร็วและชาร์จเต็มช้าเมื่อสภาพอากาศหนาวจัด แบตเตอรี่รถยนต์สันดาปและแบตเตอรี่ในโทรศัพท์มือถือก็เช่นกัน 

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ความเย็นส่งผลให้การทำปฏิกิริยาเคมีของแบตเตอรี่ลดลง ทำให้แบตเตอรี่มีความจุน้อยลง และสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ อากาศที่หนาวเย็นทำให้ต้องดึงไฟจากแบตเตอรี่เพื่อใช้ในการสตาร์ตเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้นด้วย จึงทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วยิ่งขึ้นอีก

แจ็ก บรูเวอร์ (Jack Brouwer) ผู้อำนวยการสถาบันพลังงานสะอาด (Clean Energy Institute) และศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลและการบินและอวกาศจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ (UC, Irvine) ให้ข้อมูลว่า ความท้าทายสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า คือ ทั้งสองขั้วของแบตเตอรี่ คือขั้วแอโนดและขั้วแคโทด จะมีปฏิกิริยาเคมีที่ชะลอตัวลงถ้าอยู่ในอุณหภูมิเย็นจัด ซึ่งส่งผลต่อทั้งการชาร์จและการคายประจุของแบตเตอรี่ 

“การจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ทำงานในสภาพอากาศที่เย็นจัดเป็นเรื่องยากมาก” ศาสตราจารย์บรูเวอร์กล่าว และบอกว่า “คุณไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วหรือคายประจุแบตเตอรี่ได้เร็วหากอากาศเย็น ไม่มีวิธีที่จับต้องได้ในการเดินทาง [โดยรถยนต์ไฟฟ้าในสภาพอากาศหนาว]” 

สาเหตุที่ Tesla แบตหมดไว

เมื่อกลไกปฏิกิริยาเคมีเป็นเช่นนั้น รถยนต์ไฟฟ้าจึงสูญเสียระยะทางที่สามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุ 1 ครั้ง ยิ่งอุณหภูมิต่ำมาก รถก็ยิ่งสูญเสียระยะการวิ่งไปมาก แต่ทั้งนี้ รถรุ่นไหนจะสูญเสียระยะทางที่สามารถวิ่งได้ไปมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสเป๊กของรถและแบตเตอรี่ของรถแต่ละรุ่น 

การทดสอบในเงื่อนไขที่ไม่เปิดใช้งานระบบปรับสภาพอากาศ (HVAC) พบว่า รถยนต์รุ่นที่สูญเสียระยะทางที่สามารถวิ่งได้มากที่สุด คือ BMW i3S ที่สูญเสีย 20.43% ส่วนรุ่นที่สูญเสียระยะทางน้อยที่สุดคือ Volkswagen 3-golf ที่สูญเสีย 6.86% ส่วน Tesla Model S 75D สูญเสียระยะทาง 11.3% 

ส่วนการทดสอบในเงื่อนไขที่เปิดใช้งาน HVAC จะทำให้สูญเสียระยะทางที่สามารถวิ่งได้มากขึ้นอีก โดย BMW i3S ที่สูญเสียระยะทางที่สามารถวิ่งมากที่สุดสูญเสียไปถึง 50.3% ขณะที่ Volkswagen 3-golf สูญเสียน้อยสุดที่ 36.10% ส่วน Tesla Model S 75D สูญเสีย 38.1% 


Cr. AP
    The New York Times 
    USA TODAY