คำเตือนถึงคนใจดี ถ้าไม่อยากเสียมิตรภาพที่ดีที่สุดไปตลอดชีวิต

คำเตือนอย่าใจดีเกินไป บทความนี้จะตีแผ่ "ความจริงที่เจ็บปวด" ของการให้เพื่อนยืมเงิน และเปิดเผย วิธีรับมือ ที่ทำให้คุณ รักษาเพื่อนไว้ได้ โดยไม่ต้องให้ยืมเงินแม้แต่บาทเดียว
เปิดมุมมอง อย่าให้ใครยืมเงิน ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปตลอดกาล เราทุกคนเคยเป็น "ผู้ให้" ด้วยความหวังดี แต่มีกี่ครั้งที่คุณต้องรู้สึกผิดหวังกับคำว่า "เดี๋ยวคืน" และสูญเสียมิตรภาพที่มีค่าเพราะเงินแค่ไม่กี่พัน? บทความนี้จะตีแผ่ "ความจริงที่เจ็บปวด" ของการให้เพื่อนยืมเงิน และเปิดเผย วิธีรับมือ ที่ทำให้คุณ รักษาเพื่อนไว้ได้ โดยไม่ต้องให้ยืมเงินแม้แต่บาทเดียว
3 เหตุผลทางจิตวิทยาที่ทำให้เพื่อนไม่คืนเงินคุณ (และไม่ใช่เพราะเขาไม่มี)
1. ปรากฏการณ์ "เงินที่ไม่ใช่เงินจริง"
เมื่อเงินเปลี่ยนสถานะจาก "เงินก้อนใหญ่" ที่จับต้องได้ในธนาคาร กลายเป็น "หนี้สินยิบย่อย" ที่ยืมจากคนรู้จัก ความรู้สึกผูกพันและความรับผิดชอบต่อเงินก้อนนั้นจะลดลงอย่างน่าประหลาด
สิ่งที่เกิดขึ้น: คนที่ยืมไปมักจะจัดลำดับความสำคัญในการจ่ายหนี้ให้กับ สถาบันการเงิน หรือหนี้สินที่มี "หลักฐาน" หรือ "บทลงโทษ" ที่ชัดเจนก่อน (เช่น บัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ)
ผลกระทบ: หนี้จากเพื่อนจึงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 'หนี้ที่รอได้' เพราะเขารู้สึกว่ามิตรภาพของคุณจะยอมผ่อนผันให้เสมอ หรือบางครั้งอาจลืมไปแล้วว่าต้องคืน เพราะไม่มีใบแจ้งหนี้ ไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีการทวงถามอย่างเป็นทางการ
2. การป้องกันตัวเองจาก "ความรู้สึกผิด"
เมื่อคนเราไม่สามารถทำตามคำพูด (คืนเงิน) ได้ตามกำหนด จิตวิทยาจะทำงานเพื่อปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดและความละอายที่เกิดขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น: แทนที่จะยอมรับว่าตนผิดที่ไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ พวกเขาจะเริ่ม "หาเหตุผล" หรือ "สร้างเรื่องราว" มาสนับสนุนการกระทำของตัวเอง
ตัวอย่าง: "เขาเองก็รวย ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่" หรือ "ครั้งก่อนเราก็เคยช่วยเขาเหมือนกัน ถือว่าเจ๊ากันไป"
ผลกระทบ: การหาเหตุผลเหล่านี้ทำให้ผู้ยืม ลดทอนความสำคัญของหนี้สิน และบางครั้งก็นำไปสู่การหลีกเลี่ยงที่จะพบหน้าหรือติดต่อกับผู้ให้ยืม เพราะการเผชิญหน้าจะยิ่งกระตุ้นความรู้สึกผิดที่ถูกระงับไว้
3. ความรู้สึก "มิตรภาพอยู่เหนือเงิน" ที่ถูกใช้ผิดทาง
ในมิตรภาพ มักมีข้อตกลงทางสังคมที่ว่า "เราเป็นเพื่อนกันนะ เรื่องแค่นี้เอง" ผู้ยืมบางคนใช้ความผูกพันนี้เป็น "เกราะกำบัง"
สิ่งที่เกิดขึ้น: พวกเขาเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่ามิตรภาพนั้น แข็งแกร่งกว่า จำนวนเงินที่ยืมไป พวกเขาคาดหวังว่าการให้อภัยจะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าการคืนเงิน
ผลกระทบ: เมื่อถูกทวงถาม พวกเขาอาจรู้สึกว่าถูก "ทำลายความเชื่อใจ" หรือ "โดนมองเป็นคนอื่น" มากกว่าการรู้สึกสำนึกผิดในการผิดสัญญาทางการเงิน ซึ่งทำให้เกิดการตอบโต้ด้วยอารมณ์ และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มิตรภาพพังทลายลงในที่สุด
เพราะฉะนั้นแล้ว .....
อย่ายืมเงินเพื่อน
ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน
อย่าให้คนอื่นยืมเงิน
ถ้าไม่อยากเสียมิตรภาพ



















