10 เมืองอาหารที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 "โตเกียว" ครองแชมป์ มีไทยด้วย

10 เมืองอาหารที่ดีที่สุดในโลกปี 2025 โตเกียว ผงาดคว้าแชมป์ "เมืองอาหารที่ดีที่สุดในโลกปี 2025" จากการโหวตของผู้อ่าน Condé Nast Traveller โดยมีเพียงสองเมืองจากปีที่แล้วที่ยังติดอันดับ และที่น่าภาคภูมิใจคือ เชียงใหม่ ของไทยก็มีชื่อติดอันดับในฐานะสวรรค์ของนักชิม

 

การโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร Condé Nast Traveller ในงาน Readers' Choice Awards ประจำปีนี้ ได้เผยรายชื่อ 10 เมืองที่มีอาหารอร่อยที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดย "โตเกียว" มหานครแห่งญี่ปุ่นคว้าอันดับ 1 ไปครอง และที่น่าตื่นเต้นคือ "จังหวัดของไทย" ก็ติดโผในอันดับต้น ๆ ด้วย

 

อาหารคือองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้นักเดินทางจดจำทริปได้ดีกว่าทิวทัศน์สวยงาม และด้วยกระแสความคึกคักของวงการอาหารทั่วโลก ทำให้ปีนี้มีเมืองหน้าใหม่ติดอันดับถึง 8 เมือง มีเพียงเคปทาวน์และโตเกียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในลิสต์จากปีที่แล้ว ซึ่งโตเกียวถูกผลักดันขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดด้วยความหลงใหลของนักชิมทั่วโลก

 

นี่คือ 10 เมืองแห่งอาหารที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2025

 

โตเกียว (Tokyo), ญี่ปุ่น: ครองแชมป์อันดับ 1 ในฐานะ "เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับอาหาร" มหานครนีออนแห่งนี้คือสวรรค์ของนักชิม ด้วยประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ตั้งแต่ซาชิมิสดใหม่ที่ตลาด ไปจนถึงร้านอาหารระดับมิชลินมากมาย หรือแม้แต่ราเมงอุ่น ๆ ยามดึกก็เป็นที่น่าจดจำ

 

ซานตาเฟ (Santa Fe), สหรัฐอเมริกา: เมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ผสมผสานรากเหง้าของชนพื้นเมืองและประวัติศาสตร์เข้ากับรสชาติอาหารได้อย่างลงตัว กลิ่นพริกย่างและข้าวโพดหวานลอยอบอวลในอากาศสูง ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายสำหรับอาหารที่ผสานความเผ็ดร้อนและความกลมกล่อม

 

มาดริด (Madrid), สเปน: เมืองที่มีอาหารน่าลิ้มลองทุกมุม ชูร์โรสจุ่มช็อกโกแลตร้อน แฮมอิเบริโกคุณภาพเยี่ยม และการสร้างสรรค์เมนูทาปาสที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากตลาด ทำให้ชาวมาดริดมีความมั่นใจในรสชาติของอาหารตัวเอง

 

เชียงใหม่ (Chiang Mai), ไทย: เสียงกระทะดังฉ่าและกลิ่นพริกหอมฉุนคือเอกลักษณ์ของเมืองทางเหนือแห่งนี้ เชียงใหม่คือสวรรค์ของนักกินที่ผู้คนนั่งกินเคียงกันในตลาดกลางคืนอย่างคึกคัก เมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือข้าวซอย และไส้อั่วรสจัดจ้าน

 

กีโต้ (Quito), เอกวาดอร์: แม้จะอยู่บนที่สูง แต่รสชาติอาหารในเมืองหลวงของเอกวาดอร์กลับเข้มข้นอย่างน่าทึ่ง เชฟรุ่นใหม่กำลังสร้างนิยามใหม่ให้อาหารเอกวาดอร์ ด้วยการยกระดับวัตถุดิบพื้นบ้านให้กลายเป็นจานสวยงามน่าประทับใจ

 

เคปทาวน์ (Cape Town), แอฟริกาใต้: เมืองที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยรสชาติหลากหลาย ด้วยอิทธิพลจากแอฟริกัน ดัตช์ มลายู และอินเดีย ทำให้เกิดการผสมผสานอาหารที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นสเต็กและอาหารทะเลสดใหม่ หรือการไปเยี่ยมชมไร่องุ่นระดับโลกในเขตไวน์แลนด์

 

ลิสบอน (Lisbon), โปรตุเกส: สัญลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้คือปลาซาร์ดีนย่าง ทาร์ตคัสตาร์ด และเหล้าเชอร์รีรสหวานอมเปรี้ยว อาหารพื้นบ้านที่ถ่ายทอดเรื่องราวคนรุ่นแล้วรุ่นเล่า พร้อมกับคำแนะนำร้านเด็ดจากคนท้องถิ่นที่หาได้ง่าย

 

ซาน เซบัสเตียน (San Sebastián), สเปน: เมืองบาสก์แห่งนี้มีจำนวนร้านอาหารระดับมิชลินต่อประชากรสูงที่สุดในโลก เป็นจุดหมายในฝันของนักชิมตัวจริง ทุกตรอกซอกซอยในเขตเมืองเก่าซ่อนร้านบาร์เล็ก ๆ ที่เสิร์ฟอาหารรสเลิศ (Pinxtos) ที่คุ้มค่าแก่การลิ้มลอง

 

ปัลมา (Palma), สเปน: เมืองในฝันริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีเมนูอาหารน่าหลงใหลพอ ๆ กับบรรยากาศริมฝั่งทะเล เชฟรังสรรค์อาหารมาจอร์กันในรูปแบบใหม่ตามตรอกซอกซอยเก่าแก่ พร้อมกลิ่นหอมของขนมอบจากร้านเบเกอรี่ริมถนน

 

นิวยอร์ก (New York), สหรัฐอเมริกา: ไม่มีที่ใดที่ทำให้นักชิมตื่นเต้นได้เท่านิวยอร์กอีกแล้ว ที่นี่เต็มไปด้วยพลังแห่งความทะเยอทะยานด้านอาหาร ตั้งแต่ร้านหรูระดับตำนานไปจนถึงร้านเปิดใหม่ที่ต้องต่อคิวยาวเพื่อลองชิมพุดดิ้งกล้วย แม้จะไปที่ไหน ท้องของเราก็จะพากลับมาที่นี่เสมอ

 

ขอขอบคุณ

ข้อมูล :Condé Nast Traveller