ไลฟ์สไตล์

heading-ไลฟ์สไตล์

สัญญาณเตือนอันตราย อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ จนเสี่ยงถึงชีวิต

01 ต.ค. 2568 | 17:59 น.
สัญญาณเตือนอันตราย อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ จนเสี่ยงถึงชีวิต

อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ ตับเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาชีวิต หากตับทำงานผิดปกติหรือไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะรวนตามมาทันที

อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ “ตับ” คือโรงงานกรองสารพิษที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่ขจัดของเสียและสารพิษตกค้างทั้งหมดที่เราได้รับจากการกิน หากคุณไม่ใส่ใจอาหารการกิน อาจส่งผลร้ายแรงจนถึงขั้น ตับอ่อนแอ ไขมันพอกตับ หรือตับแข็ง ได้

สัญญาณเตือนอันตราย อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ จนเสี่ยงถึงชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำไมคุณต้องดูแล "ตับ" ตั้งแต่วันนี้?

ตับเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาชีวิต หากตับทำงานผิดปกติหรือไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะรวนตามมาทันที เพราะตับมีหน้าที่หลักดังนี้

  • กรองและขจัดสารพิษ: เช่น แอลกอฮอล์ ยา สารเคมี และของเสียต่าง ๆ ให้พ้นจากกระแสเลือด
  • ผลิตน้ำดี: ช่วยในการย่อยไขมันและดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน
  • ควบคุมน้ำตาลในเลือด: เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไกลโคเจนเพื่อเก็บสะสมพลังงาน

 

หากตับเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นอาการ ตับอ่อนแอ หรือร้ายแรงไปจนถึงภาวะ ไขมันพอกตับ และ ตับแข็ง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้

 

แนวทางปฏิบัติเพื่อบำรุงตับให้แข็งแรง

ก่อนที่จะตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อโรคตับ เราควรเริ่มดูแลและบำรุงตับให้แข็งแรงด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังนี้

  • ใส่ใจการรับประทานอาหาร: เน้นอาหารที่ช่วยบำรุงตับ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้รสเปรี้ยว ธัญพืชไม่ขัดสี และไขมันดี (โอเมก้า 3) รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวสูง
  • จำกัดแอลกอฮอล์: ลดหรือเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะตับต้องทำงานหนักมากในการขจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย
  • รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม: ควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยให้ตับเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูแลตับให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อสุขภาพและชีวิตที่ยืนยาวของคุณ

 

สัญญาณเตือนอันตราย อย่าปล่อยให้ตับอ่อนแอ จนเสี่ยงถึงชีวิต

อาหารบำรุงตับ ฟื้นฟูให้แข็งแรง

  1. ผักประเภทหัว อาทิ กะหล่ำปลี จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มกลูตาไธโอน (Glutathione) ในร่างกาย ทำให้ล้างสารพิษ บำรุงตับได้เป็นอย่างดี บรอกโคลี มันเทศ ที่มีกลูโคซิโนเลต (Glucosinolate) ช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ต่อต้านสารพิษ และเอนไซม์ช่วยย่อย
  2. แครอท ผักสีส้มที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินหลากหลายชนิด ทั้งวิตามิน A, B1, B2, C, D และ K อีกทั้งยังมีกรดโฟลิก ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และทองแดง ช่วยบำรุงตับ บำรุงเลือด และช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อยได้
  3. ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักกาดหอม รวมถึงผักใบเขียวชนิดอื่นๆ จะมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับ และชะล้างสารเคมีที่สะสมอยู่ในตับ โดยเฉพาะสารเคมีประเภทยาฆ่าแมลงที่ร่างกายมักจะได้รับจากการบริโภคอาหาร
  4. บีทรูท จะมีสารฟลาโวนอยด์ ที่ตับต้องการไปบำรุงและฟื้นฟูตัวเอง
  5. ลิ้นจี่ อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน กลูโคส ซูโครส วิตามิน A, B, C และกรดซิตริก ที่ช่วยบำรุงตับและบรรเทาอาการตับอักเสบได้
  6. ส้มและเกรปฟรุต มีทั้งวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญในการล้างพิษในตับและลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ
  7. อะโวคาโด มีกลูตาไธโอน (Glutathione) จะช่วยล้างพิษสะสมในตับ และช่วยลดโอกาสเกิดโลหะหนักสะสมในตับ
  8. เห็ดต่างๆ อาทิ เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม เห็ดหูหนู หรือเห็ดหลินจือ ช่วยลดไขมันที่สะสมในตับและกระแสเลือด ต่อต้านการเกิดมะเร็ง และเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดขาวด้วย
  9. มะขามป้อม อุดมไปด้วยวิตามินซีช่วยรักษาอาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันการเกิดพิษโลหะหนักในตับ และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับได้
  10. ข้าวกล้อง มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีวิตามินบีรวม หากรับประทานในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะช่วยสร้างไกลโคเจนในตับได้ ทำให้ช่วยฟื้นฟูให้ตับแข็งแรง
  11. เนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน จะมีโอเมก้า 3 สารอาหารบำรุงการทำงานของตับ เป็นตัวช่วยสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของตับที่เสียหายให้กลับมาฟื้นฟูและทำงานได้ดีอีกครั้ง
  12. เก๋ากี้ จะมีเบต้าแคโรทีน กรดกำมะถัน แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามิน E, B2 ที่จะมาช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว และลดไขมันในเลือด ซึ่งจะบำรุงตับให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้ไขมันมาพอกตับมากกว่าเดิม
  13. วอลนัท มีสารสำคัญที่ช่วยบำรุงตับอยู่ 2 ชนิด คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 และกลูต้าไธโอน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการขจัดสารพิษออกจากตับ
  14. กระเทียม มีสรรพคุณกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ตัวที่ช่วยขับสารพิษออกไป อีกทั้งกระเทียมยังมีอัลลิซิน (Allicin) และซีลีเนียม (Selenium) 2 องค์ประกอบสำคัญจากธรรมชาติที่จะช่วยดีท็อกซ์สารพิษที่สะสมในตับ


ขอบคุณ : ข้อมูลจาก เลือกอาหารถูกหลัก ช่วยเยียวยา "ตับ" ได้

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"ผู้กองแคท"ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการแล้ว พร้อมแจ้งเหตุผลชัด

"ผู้กองแคท"ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการแล้ว พร้อมแจ้งเหตุผลชัด

"กยท." จับมือ นอร์ทอีส รับเบอร์ ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยาง 200,000 ตัน/ปี

"กยท." จับมือ นอร์ทอีส รับเบอร์ ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยาง 200,000 ตัน/ปี

เพื่อไทยจะกลับมา : 2 ปี กับผลงานใหญ่ เพื่อคนไทย พร้อมจะสานต่อ

เพื่อไทยจะกลับมา : 2 ปี กับผลงานใหญ่ เพื่อคนไทย พร้อมจะสานต่อ

เปิดดวงเดือนตุลาคม ราศีไหนเด่นเรื่องเงิน ราศีไหนเด่นเรื่องงาน มีคำตอบ

เปิดดวงเดือนตุลาคม ราศีไหนเด่นเรื่องเงิน ราศีไหนเด่นเรื่องงาน มีคำตอบ

พบดวง 1 ราศี เดือนตุลาคม ชีวิตก้าวหน้ารุ่งเรือง หยิบจับอะไรมักพบความสำเร็จ

พบดวง 1 ราศี เดือนตุลาคม ชีวิตก้าวหน้ารุ่งเรือง หยิบจับอะไรมักพบความสำเร็จ