ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม

มะเร็งปากมดลูกเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงหลายคนอาจไม่รู้ตัว เพราะอาการเริ่มต้นมักไม่ชัดเจน แต่หากสังเกตพบ 7 สัญญาณเตือนเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคที่อันตรายถึงชีวิต
ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม มะเร็งปากมดลูก ถือเป็นมะเร็งชนิดเดียวในโลกที่สามารถตรวจคัดกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกระบวนการพัฒนาจากเซลล์ปกติไปสู่มะเร็งใช้เวลานานถึง 10 ปี โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเซลล์จนเข้าสู่ระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV
ปัจจุบันมีวิธีตรวจคัดกรองที่แม่นยำ เช่น การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) และการตรวจ HPV DNA ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงได้ตั้งแต่ระดับดีเอ็นเอ ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และทำการรักษาก่อนที่เซลล์จะกลายเป็นมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที
สัญญาณเตือนจากอาการของมะเร็งปากมดลูก
- มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ ทั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว รวมถึงการมีประจำเดือนมามาก หรือกะปริบกะปรอยในระหว่างรอบเดือนด้วย
- มีตกขาวผิดปกติออกจากช่องคลอด เช่น ตกขาวที่มีเลือด มีหนอง มีเศษเนื้อปน รวมทั้งสี กลิ่น และปริมาณที่ผิดปกติ
- มีอาการเบื่ออาหาร ทำให้ไม่รู้สึกอยากอาหารจนทำให้น้ำหนักลดลง
- มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรงหรือเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการทานอาหารได้น้อยลง หรือมีภาวะโลหิตจาง
- ปวดบริเวณท้องน้อยผิดปกติ อาจทำให้ขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระได้ผิดปกติ เช่น ปัสสาวะหรืออุจจาระลำบาก หรือมีเลือดออกมา
- รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หากเตรียมตัวพร้อมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่ยังรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์อยู่ อาจเป็นสัญญาณเล็กๆ ของอาการมะเร็งปากมดลูกได้
- ขาบวม จะเกิดขึ้นในกรณีที่มะเร็งปากมดลูกได้ลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว
เราสามารถลดเสี่ยงและป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนี้
งดสูบบุหรี่
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีคู่นอนหลายคน
ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เพื่อรักษาตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง
ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (ป้องกันการติดเชื้อ HPV) โดยมีอยู่ 2 ชนิด คือ
– ชนิด 4 สายพันธุ์ : สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70%
– ชนิด 9 สายพันธุ์ : สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า 90%
โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี หรือแม้ในผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดได้เช่นกัน
ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีสัญญาณอาการเตือนใดๆ หรือพบร่วมกันหลายอาการ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพราะถึงแม้หากตรวจแล้วไม่ใช่โรคมะเร็ง แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ก็ได้ แต่จะให้ดีที่สุด คือควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และหมั่นตรวจภายในเป็นประจำเมื่อถึงวัยอันควร โดยไม่ต้องรอให้มีอาการใดๆ เสียก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก : แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช

อัปเดตราคาทองวันนี้ 24 ก.ย. 68 ราคาทองวันนี้ ปรับตัวถึง 9 ครั้ง

พ่อพูดไม่ออก ลูกสาววาจาสิทธิ์ ลั่นอีก 7 วันตาย เล่าย้อนยิ่นขนลุก

ขสมก. แจ้งปรับเส้นทางเดินรถ 5 สาย เป็นการชั่วคราว เลี่ยงถนนทรุดตัว

สาววัย 20 ปี ทำงานเก็บเงินได้เดือนละหมื่น ชาวเน็ตบอกให้หยุดทันที
