ไลฟ์สไตล์

heading-ไลฟ์สไตล์

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม

24 ก.ย. 2568 | 18:27 น.
ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม

มะเร็งปากมดลูกเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงหลายคนอาจไม่รู้ตัว เพราะอาการเริ่มต้นมักไม่ชัดเจน แต่หากสังเกตพบ 7 สัญญาณเตือนเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคที่อันตรายถึงชีวิต

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม มะเร็งปากมดลูก ถือเป็นมะเร็งชนิดเดียวในโลกที่สามารถตรวจคัดกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากกระบวนการพัฒนาจากเซลล์ปกติไปสู่มะเร็งใช้เวลานานถึง 10 ปี โดยเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเซลล์จนเข้าสู่ระยะก่อนเป็นมะเร็ง ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน มะเร็งปากมดลูก ที่ไม่ควรมองข้าม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันมีวิธีตรวจคัดกรองที่แม่นยำ เช่น การตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) และการตรวจ HPV DNA ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงได้ตั้งแต่ระดับดีเอ็นเอ ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และทำการรักษาก่อนที่เซลล์จะกลายเป็นมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน มะเร็งปากมดลูก ที่ไม่ควรมองข้าม

สัญญาณเตือนจากอาการของมะเร็งปากมดลูก

  1. มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ ทั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว รวมถึงการมีประจำเดือนมามาก หรือกะปริบกะปรอยในระหว่างรอบเดือนด้วย
  2. มีตกขาวผิดปกติออกจากช่องคลอด เช่น ตกขาวที่มีเลือด มีหนอง มีเศษเนื้อปน รวมทั้งสี กลิ่น และปริมาณที่ผิดปกติ
  3. มีอาการเบื่ออาหาร ทำให้ไม่รู้สึกอยากอาหารจนทำให้น้ำหนักลดลง
  4. มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรงหรือเหนื่อยง่ายกว่าปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการทานอาหารได้น้อยลง หรือมีภาวะโลหิตจาง
  5. ปวดบริเวณท้องน้อยผิดปกติ อาจทำให้ขับถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระได้ผิดปกติ เช่น ปัสสาวะหรืออุจจาระลำบาก หรือมีเลือดออกมา
  6. รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หากเตรียมตัวพร้อมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์แล้ว แต่ยังรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์อยู่ อาจเป็นสัญญาณเล็กๆ ของอาการมะเร็งปากมดลูกได้
  7. ขาบวม จะเกิดขึ้นในกรณีที่มะเร็งปากมดลูกได้ลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองแล้ว

 

เราสามารถลดเสี่ยงและป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนี้

งดสูบบุหรี่

มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย เพื่อลดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ และไม่มีคู่นอนหลายคน

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เพื่อรักษาตั้งแต่ระยะก่อนมะเร็ง

ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (ป้องกันการติดเชื้อ HPV) โดยมีอยู่ 2 ชนิด คือ

– ชนิด 4 สายพันธุ์ : สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70%

– ชนิด 9 สายพันธุ์ : สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่า 90%

โดยฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปี หรือแม้ในผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดได้เช่นกัน

ดังนั้น หากพบว่าตนเองมีสัญญาณอาการเตือนใดๆ หรือพบร่วมกันหลายอาการ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพราะถึงแม้หากตรวจแล้วไม่ใช่โรคมะเร็ง แต่อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์ก็ได้ แต่จะให้ดีที่สุด คือควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และหมั่นตรวจภายในเป็นประจำเมื่อถึงวัยอันควร โดยไม่ต้องรอให้มีอาการใดๆ เสียก่อน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

อัปเดตราคาทองวันนี้ 24 ก.ย. 68 ราคาทองวันนี้ ปรับตัวถึง 9 ครั้ง

อัปเดตราคาทองวันนี้ 24 ก.ย. 68 ราคาทองวันนี้ ปรับตัวถึง 9 ครั้ง

พ่อพูดไม่ออก ลูกสาววาจาสิทธิ์ ลั่นอีก 7 วันตาย เล่าย้อนยิ่นขนลุก

พ่อพูดไม่ออก ลูกสาววาจาสิทธิ์ ลั่นอีก 7 วันตาย เล่าย้อนยิ่นขนลุก

ขสมก. แจ้งปรับเส้นทางเดินรถ 5 สาย เป็นการชั่วคราว เลี่ยงถนนทรุดตัว

ขสมก. แจ้งปรับเส้นทางเดินรถ 5 สาย เป็นการชั่วคราว เลี่ยงถนนทรุดตัว

สาววัย 20 ปี ทำงานเก็บเงินได้เดือนละหมื่น ชาวเน็ตบอกให้หยุดทันที

สาววัย 20 ปี ทำงานเก็บเงินได้เดือนละหมื่น ชาวเน็ตบอกให้หยุดทันที

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม

ผู้หญิงควรรู้ 7 สัญญาณเตือน “มะเร็งปากมดลูก” ที่ไม่ควรมองข้าม