ไลฟ์สไตล์

heading-ไลฟ์สไตล์

กาแฟดีต่อสุขภาพ? 9 วิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

21 มี.ค. 2568 | 19:57 น.
กาแฟดีต่อสุขภาพ? 9 วิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

9 วิธีดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์สูงสุด เปลี่ยนกาแฟแก้วโปรดของคุณให้กลายเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย

กาแฟ” เครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนขาดไม่ได้ในตอนเช้า นอกจากจะช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวแล้ว กาแฟยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย แต่จะดื่มอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด? ในบทความนี้ เราจะมาเผย 9 เคล็ดลับที่จะเปลี่ยนกาแฟแก้วโปรดของคุณให้กลายเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อร่างกาย

 

กาแฟดีต่อสุขภาพ? 9 วิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

9 วิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

 

เลือกกาแฟคุณภาพดี:

  • เลือกเมล็ดกาแฟอาราบิก้า ซึ่งมีรสชาติละมุนและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  • เลือกกาแฟคั่วอ่อน ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่ากาแฟคั่วเข้ม

 

หลีกเลี่ยงน้ำตาลและครีมเทียม:

  • ใช้น้ำตาลธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง หรือหญ้าหวาน ในปริมาณน้อย
  • เลือกใช้นมสด หรือนมจากพืชแทนครีมเทียม

 

เพิ่มสารอาหาร:

  • เติมผงโกโก้ หรือผงอบเชย เพื่อเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระและรสชาติ
  • เติมน้ำมัน MCT หรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อเพิ่มพลังงานและช่วยเผาผลาญไขมัน
  • เติมโปรตีน เช่น เวย์โปรตีน หรือโปรตีนจากพืช เพื่อเพิ่มความอิ่มและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

 

ดื่มกาแฟดำ:

  • กาแฟดำมีแคลอรี่ต่ำและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

 

ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม:

  • ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3-4 แก้วต่อวัน

 

กาแฟดีต่อสุขภาพ? 9 วิธีดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

 

 

ดื่มกาแฟในช่วงเวลาที่เหมาะสม:

  • ควรดื่มกาแฟหลังอาหารเช้า เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร

 

ดื่มน้ำตาม:

  • กาแฟอาจทำให้ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำตามเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย

 

เลือกดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน:

  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับ หรือผู้ที่ไวต่อคาเฟอีน การเลือกดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนเป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ

 

ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์:

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มกาแฟ เพื่อให้ทราบถึงปริมาณที่ควรดื่มอย่างเหมาะสม

 

ประโยชน์ของกาแฟต่อสุขภาพ

  1. ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2: การดื่มกาแฟเป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้
  2. ลดความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสัน: กาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสันได้
  3. ลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์: กาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ได้
  4. ลดความเสี่ยงต่อโรคตับ: กาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคตับได้
  5. ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด: กาแฟอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดได้
  6. เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย: คาเฟอีนในกาแฟอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้
  7. ช่วยให้รู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิ: คาเฟอีนในกาแฟช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิมากขึ้น

 

ข้อควรระวัง

  • การดื่มกาแฟมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ กระวนกระวาย และหัวใจเต้นเร็ว

ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มกาแฟ

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เผยอาการ "พังข้าวต้ม" ดีขึ้นต่อเนื่อง พยายามยืนเองได้แล้ว

เผยอาการ "พังข้าวต้ม" ดีขึ้นต่อเนื่อง พยายามยืนเองได้แล้ว

ไทยฝนเริ่มลด แต่ยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่ พร้อมจับตาพายุลูกใหม่

ไทยฝนเริ่มลด แต่ยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่ พร้อมจับตาพายุลูกใหม่

ครอบครัว เผยอาการล่าสุด "แอ้ม สโรชา" เริ่มรู้สึกตัวแล้ว

ครอบครัว เผยอาการล่าสุด "แอ้ม สโรชา" เริ่มรู้สึกตัวแล้ว

สะดุ้งทั้งสตู "หนุ่ม กรรชัย" เล่านิทานสั้น "รถเมล์" ถึงกับตกใจ

สะดุ้งทั้งสตู "หนุ่ม กรรชัย" เล่านิทานสั้น "รถเมล์" ถึงกับตกใจ

"ผู้กองแคท"ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการแล้ว พร้อมแจ้งเหตุผลชัด

"ผู้กองแคท"ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการแล้ว พร้อมแจ้งเหตุผลชัด