ชาวบ้านปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

09 กรกฎาคม 2565

ไร่นิรากรณ์ ปลูกต้นดอกเข้าพรรษาสีขาว หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

จากกรณี ไร่นิรากรณ์ เลขที่ 14 ม.8 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายสละ นิรากรณ์ ได้เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาที่ดินประจำตำบล บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ 7 ไร่ ปลูกต้นดอกเข้าพรรษาสีขาว หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หงส์เหิน เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นหัวใต้ดินประเภทรากแบบ Rhizome เป็นรากแบบสะสมอาหาร กาบใบที่เรียงตัวแน่นทำหน้าที่เป็นต้นเทียมเหนือดิน ลักษณะเป็นกลุ่มกอ มีความสูง 30-70 เซนติเมตร ใบของดอกเข้าพรรษามีลักษณะเรียวยาว คล้ายหอก เหมือนใบกระชาย ขนาดของใบประมาณ 10X25 เซนติเมตร ส่วนดอกแทงจากยอดเป็นช่อโค้ง ลักษณะห้อยตัวลงอย่างอ่อนช้อย มีหลากหลายสีสวยงาม โดยมีรูปทรงของช่อดอกและกลีบที่แตกต่างกันออกไป 

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

    ด้วยลักษณะพิเศษเหล่านี้จึงเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกเพื่อความสวยงาม และนำมาตักบาตรแด่พระสงฆ์ในวันเข้าพรรษา ซึ่งหลังจากพระสงฆ์รับบิณฑบาตจากประชาชนแล้ว จะนำดอกเข้าพรรษามาสักการะรอยพระพุทธบาท ตามความเชื่อว่าจะส่งผลบุญให้ผู้ทำบุญตักบาตร ได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทั้งนี้ดอกเข้าพรรษา หนึ่งปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว เฉพาะช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเท่านั้น ตั้งแต่โบราณกาลชาวอำเภอพระพุทธบาทจะพากันไปเก็บดอกเข้าพรรษาตามไหล่เขาโพธิลังกา หรือเขาสุวรรณบรรพต เทือกเขาวง และเขาพุ ในเขตอำเภอพระพุทธบาท เพื่อมาตักบาตร แต่ปัจจุบันเกษตรกรได้พัฒนาการปลูกดอกเข้าพรรษาได้ สามารถปลูกได้ทั้งปี สร้างรายได้ให้ผู้ปลูก ซึ่งดอกเข้าพรรษาจะมีสีหลายสี ทั้งสีม่วง สีเหลือง สีแดง และสีขาว

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

    นายสละ นิรากรณ์ เกษตรกรผู้ปลูกต้นดอกเข้าพรรษา เปิดเผยว่า ตนเองปลูกดอกเข้าพรรษาในเชิงพานิช และเป็นแหล่งท่องเที่ยว (ศูนย์การเรียนรู้) โดยใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 7 ไร่ และในอนาคตจะปลูกเพิ่มเป็น 20 ไร่ ส่วนที่ปลูกเฉพาะพันธุ์สีขาว เพราะมีความทนต่อความแห้งแล้ง ออกนอกฤดูกาลได้ และอยู่กับธรรมชาติได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำเข้ามาจากประเทศพม่า หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หงส์เหิน มีลักษณะงอคล้ายกับหงส์ ส่วนสีอื่น ๆ ก็มีโครงการที่จะปลูก อย่างสีม่วง ต้นทุนจะสูง หัวพันธุ์แพง ความอ่อนไหวเยอะ ถ้าปีหน้าการตลาดไปได้ดีก็จะปลูกเพิ่มขึ้น โดยธรรมชาติของดอกหงส์เหินชอบขึ้นใต้ต้นไม้ ถ้าอยู่แบบเดี่ยว ๆ ต้องมีสแลนช่วยบังแสง เนื่องจากต้นดอกเข้าพรรษาต้องการแดดเพียง 30% 

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

 

    ด้านราคาของดอกหงส์เหิน ตอนนี้ขายปลีก ดอกละ 10 บาท หรือมัดเป็นกำ กำละ 10-12 ดอก ราคา 100 บาท ขนาดรอง 70-80 บาท ส่วนช่อเล็กช่อละ 50 บาท หรือดอกละ 5 บาท ที่สวนตนเองเน้นขายเป็นกำ ซึ่งจะมองดูสวยงาม ทั้งนี้ดอกหงส์เหิน สามารถปลูกได้ทั้งปี หน้าแล้งก็ออกดอกได้ เนื่องจากมีร่มให้ มีอาหารเพียงพอ ทางสวนเน้นเทคโนโลยี มีน้ำ ปุ๋ย และดินที่พอเพียง ทำให้ออกดอกใหญ่ ซึ่งการปลูกดอกไม้ก็จะต้องมีการปรับปรุงสายพันธุ์ด้วย ส่วนสีม่วง สีชมพู จะมีอีกสวนหนึ่ง โดยปีหน้าจะปลูกเพิ่มเติม และถ้าปลูกลงกระถางราคาก็จะสูง ต้นเดียวถ้าปลูกลงกระถางราคาถึง 300 บาท

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

ปลูกดอก "หงส์เหิน" สร้างรายได้ ช่วงประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา

    ต้นหงส์เหินนั้นมีทั้งสีชมพู สีม่วง สีม่วงแก่ สีเหลือง แต่ละสายพันธุ์สามารถผสมเข้าด้วยกันได้ ข้ามสายพันธุ์จะทำให้สีเข้มขึ้น ช่วงโควิดที่ผ่านมา 2 ปี ทางสวนไม่ได้ปลูก เนื่องจากวัดพระพุทธบาทไม่ได้จัดตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซึ่งคิดว่าปีนี้ดอกหงส์เหินน่าจะขายดี สำหรับพื้นที่ 7 ไร่ ปลูกต้นหงส์เหินกว่า 1 แสนต้น คาดว่าปีนี้จะขายสร้างรายได้ประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งปีนี้งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาของจังหวัดสระบุรี ที่เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก จะมีพิธีเปิดในวันที่ 12 ก.ค.2565 เวลา 13.30 น. จากนั้นวันที่ 13 และ 14 ก.ค. จะมีพิธีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ในเวลา 13.30 น. ซึ่งปีนี้จะจัดให้มีตักบาตรเพียงวันละ 1 รอบ


ภาพข่าว วัฒนา เอี่ยมสำอางค์ สำนักข่าวเนชั่น จ.สระบุรี