พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

12 เมษายน 2565

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ มาถึงช่วงเทศกรานต์กันอีกไม่กี่วันข้างหน้าเเล้ว หลายคนคงเตรียมที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัวกัน ซึ่งก่อนเราจะเดินทางนั้นเราควรที่จะตรวจเช็ครถยนต์ของคุณเสียก่อน

ใกล้เข้ามาถึงช่วงเทศกรานต์กับเเล้วซึ่งเชื้อว่าหลายคนคงเตรียมที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัวกัน และส่วนใหญ่จะเลือกการเดินทางโดยการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและปกป้องอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนนั้น เราควรเตรียมความพร้อมของรถยนต์ให้มากที่สุด ซึ่งทางเราจะมาแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

 

 

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

1. ตรวจเช็คแบตเตอรี่  หัวใจหลักของการสตาร์ทเครื่องยนต์คือแบตเตอรี่ ตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่ ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ หมั่นตรวจเช็กทำความสะอาดคราบขี้เกลือที่ขั้วแบต เช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด ตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต และฉนวนหุ้มสาย และควรเช็คอายุของเเบตเตอรี่ว่าอยุ่ในเกณฑ์ที่ยังใช้ได้อยุ่หรือป่าว เพราะว่าเเบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 2-3 ปี 

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

2. ล้อและยางรถยนต์ เป็นจุดที่สำคัญมากๆ เพราะว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดบนท้องถนนก็เกิดมาจากสภาพล้อและยางอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมใช้งาน ยางเกิดอาการระเบิดแล้วทำให้รถยนต์เกิดเสียอาการ ไม่สามารถควบคู่ได้ ในส่วนของล้อนั้นส่วนใหญ่ที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นคือ ล้อที่แต่งที่ไม่ได้คุณภาพเท่านั้นควร อาจจะเกิดการเเตกร้าว ได้เชิญกัน เพราะฉะนั้นการออกเดินทางไกลนั้น ควรที่จะตรวจสอบล้อและยางของคุณได้ดีที่สุด คุณอย่าลืมนะครับ ล้อและยาง เป็นอุปกรณ์สิ่งเดียวที่สัมผัสพื้นถนน 

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ 

3. ระบบช่วงล่าง ตรวจเช็กด้วยการลองขับบนถนนเรียบทางตรง โดยสังเกตพวงมาลัยว่าตรงหรือไม่ หากพวงมาลัยไม่ตรงก็จัดการนำรถไปตั้งศูนย์ใหม่ พวกชิ้นส่วนต่างๆของช่วงล่าง เช่นลูกหมาก หากขับทางขรุขระแล้วมีเสียงกุกกัก ก็รีบให้ช่างแก้ไขโดยด่วน โช้คก็เช่นกัน ตรวจเช็กคราบน้ำมันบริเวณแกนโช้ค ว่ารั่วหรือไม่ เพราะระบบช่วงล่างทั้งหมดมีผลต่อการทรงตัวขณะขับขี่

พร้อมแนะนำ 8 จุดที่ต้องเช็คก่อนขับรถยนต์เดินทางไกลกันครับ  4. ระบบเบรก ตรวจเชคระดับน้ำมันเบรคให้อยู่ระหว่าง FULL อยู่หรือป่าว น้ำมันเบรคต้องมีความใสเสมอ ถ้าเห็นว่าเริ่มดำคล้ำ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที และตรวจดูหม้อลมเบรค (ที่อยู่หลังกระปุกน้ำมันเบรค) ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ ลำดับสุดท้ายตรวจเชคผ้าเบรค โดยใช้ไฟฉายส่องดูแนวร่องกลางผ้าเบรค ถ้าร่องเริ่มตื้น ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว

5. ระบบไฟส่องสว่าง ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน จะต้องใช้งานได้ครบทุกจุด แสงสว่างจะต้องคมชัด ไม่มัว ยิ่งเดินทางในช่วงกลางคืนระบบไฟส่องสว่างถือว่าจำเป็นมากในการเดินทาง

6. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องถือเป็นสิ่งที่จำเป็นของระบบกลไกต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องที่ดี จะต้องผ่านการใช้งานไม่เกินระยะทางที่คู่มือกำหนด ระดับน้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเราสามารถตรวจเช็กได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง และขณะเดินทางควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อได้ใช้ในยามฉุกเฉิน

7. ระบบหล่อเย็น ระบบระบายความร้อนถือว่าเป็นปัจจัยหลักของเครื่องยนต์ เพราะด้วยความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน บวกกับอุณหภูมิภายนอกที่ร้อน หากระบบระบายความร้อนไม่ดีหรือมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์น็อคได้ ดังนั้นเราควรตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักและหม้อน้ำ เช็กการทำงานของพัดลมหม้อน้ำและมอเตอร์ ตรวจสอบรอยรั่วของหม้อน้ำ ท่อยาง และข้อต่อต่าง ๆ หากตรวจพบว่ามีน้ำไหลซึม ควรรีบแก้ไขโดยด่วน

8. ชุดเครื่องมือประจำรถ ล้อ-ยางอะไหล่ ,แม่แรง ,ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ,ที่เติมลมฉุกเฉิน ,สายพ่วงแบต ,สายลากรถ ,ไฟฉาย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ควรมีติดรถเอาไว้ จะได้อุ่นใจยามเดินทาง มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ

ซึ่งทั้ง 8 ข้อ นี้คือ คำแนะนำเบื้องต้น หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเเนะนำให้เข้สศูนย์บริการหรือช่างผู้เชี่ยวชาญ รับรองเลยว่ารถยนต์ของคุณจะพร้อมเดินไปกับเราทุกสถานที่เเละปลอดภัยอย่างแน่นอนครับ

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.autospinn.com/2022/04/checking-your-car-89225