บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

10 กุมภาพันธ์ 2565

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ตำเเหน่งอันดับหนึ่งได้ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน ซึ่งได้รวมกันของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 45.5% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 44.6% ในปี 2563  เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในรูปแบบของ Gran Coupe ด้วย BMW i4 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สามารถรักษาตำเเหน่งอันดับหนึ่งได้ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน โดยเป็นการรวมกันของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 45.5% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 44.6% ในปี 2563  และในอนาคตพร้อมที่จะเดินหน้าสู่ยนตรกรรมไฟฟ้าในที่สุด

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

แล้วเท่านั้นยังไม่พอได้ทำการการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในรูปแบบของ Gran Coupe ด้วย BMW i4 รุ่นใหม่ อีกด้วย โดยสำหรับเวอร์ชั่นไทย BMW i4 รถยนต์ไฟฟ้า 100% จะมาด้วยกันทั้ง 2 รหัส คือ i4 eDrive40 และ i4 M50 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 83.9 kWh ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 590 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

 

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ครองตลาดรถยนต์นั่งอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมของไทย ซึ่งเป็นการรวมกันของบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 45.5% ในปี 2564 เพิ่มขึ้นจาก 44.6% ในปี 2563

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ทำลายสถิติด้วยยอดสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 13% รวมมูลค่า 19,000 ล้านบาท พร้อมตัวเลขยอดสินเชื่อรวมในพอร์ททะยานสู่หลัก 52,000 ล้านบาท

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผลิตรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 33,428 คัน

เปิดตัวโมเดลใหม่ 10 รุ่น ทั้งจากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเดอร์ราด เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุมให้แก่ลูกค้า รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีก 2 รุ่น

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการรายงานของกรมการขนส่งทางบก รถยนต์แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มียอดจดทะเบียนของปี 2564 ทั้งสิ้น 9,982 คันและ มินิ 1,050 คัน ทำให้ บีเอ็มดับเบิลยูสามารถยึดตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์หรูของประเทศไทยได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

ในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมียอดจดทะเบียนจำนวน 515,858 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า 4.7% ส่วนเฉพาะรถหรูมีจำนวน 24,131 คัน ลดลง 8.5% โดยบีเอ็มดับเบิลยู และมินิครองส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์หรูที่ 45.5% เพิ่มขึ้นจากปี2563 ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 44.6%

โดยปีแห่งความเป็นผู้นำของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ทั้งในด้านตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียม ด้านนวัตกรรม และด้านความพึงพอใจของลูกค้า

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้อันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย 2 ปีซ้อน

 

ขอบคุณที่มาจาก:https://positioningmag.com/1373580