คาถาบูชา "พระเศรษฐีนวโกฎิ" เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต

17 พฤศจิกายน 2564

อานิสงส์การบูชาพระเศรษฐีนวโกฎิ ตามตำนานเล่าขานกันว่าเปี่ยมไปด้วยอิทธิคุณแรงกล้า ทางด้านมหาโชค มหาลาภ และผู้ใดได้สักการบูชาแล้ว ผู้นั้นจะประสบความสำเร็จร่ำรวย รุ่งเรืองเป็นมหาเศรษฐี เพิ่มพูนบารมี ทรัพย์สินเนืองนอง ดุจเดียวกับมหาเศรษฐีในสมัยพุทธกาล

พระเศรษฐีนวโกฏิ เดิมในสมัยพุทธกาล เศรษฐีเป็นตำแหน่งที่ราชาเจ้าแคว้น พระราชทานให้แก่ผู้มีทรัพย์ เป็นพ่อค้าวานิชที่มีผลต่อเศรษฐกิจและความมั่งคั่งของท้องพระคลัง แต่ในพระคาถามุ่งหวังเพียงอ้างความดีของท่านผู้ใจบุญกลุ่มหนึ่ง ที่ปรากฏนามในพระชาดก ซึ่งบริจาคทานอย่างมโหฬาร หรือมีบารมีมาก สามารถบันดาลฝนโบกขรพรรษ สงเคราะห์แก่บริวารได้ เพื่อหวังอ้างบารมีของท่านเหล่านั้น ให้ส่งผลต่อผู้บูชา บุคคลเหล่านั้นทั้งที่อยู่ร่วมสมัยพุทธกาล และสมัยของอดีตพุทธะ มีชื่อว่า

1.ธนัญชัย
2.ยะสะ
3.สุมนะ
4.ชฏิละ
5.อนาถปิณฑิกะ
6.เมณฑกะ
7.โชติกะ
8.สุมังคละ
9.มัณฑาตุ
10.เวสสันตร

รวมเป็น 10 ท่าน ในบางฉบับ มี 11 ท่าน และในบทคาถานี้ ไม่มีนาง วิสาขามหาอุบาสิกา (ไม่มีชื่อในคาถานี้) ทำให้มีการคัดลอกผิดๆ มาตลอดหลายปี ผู้รู้ได้ถือเอาคตินี้มาสร้างเป็นพระนวเศรษฐี ให้มีพระพักตร์ทั้งหมด 9 พระพักตร์ แทนคุณของผู้บำเพ็ญทานในอดีต โดยรับอิทธิพลรูปแบบของพุทธมหายาน ทำให้มีหลายพระพักตร์

คติของชาวล้านช้างที่ใช้พระคาถานี้ บูชาพระในวันทางจันทรคติที่กำหนดไว้ในตำรา เชื่อว่าผู้ใดได้บูชาพระด้วยคาถานี้แล้ว จะมีสิริมงคล ทำมาค้าขึ้น ให้โชคลาภ อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยอานิสงส์ ในบทความที่แพร่หลายกัน อ้างว่ามีตำนาน สมัยหนึ่งเกิดทุกข์เข็ญ ทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพง ประชาชนเดือดร้อน บังเกิดความอดอยากขึ้น มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ได้แนะนำให้สร้างพระเศรษฐีนวโกฏิขึ้น เพื่อทำการสักการบูชาแก้เคล็ดในความทุกข์ยากทั้งหลาย และเมื่อสร้างและทำการฉลองสำเร็จ ก็ปรากฏมีเหตุการณ์เป็นอัศจรรย์คือ ความทุกข์ยากอดอยากทั้งหลาย ได้บรรเทาลงและสงบระงับในที่สุด ซึ่งอ้างอิงยุคสมัยไม่ได้

พระเศรษฐีนวโกฏิ

การสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ ตำรับของพระเกจิดัง พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจนฺโท) ให้ใช้ไม้ ยอป่า ราชพฤกษ์ ตะกรุดหรือกระดาษจารอักขระ เงิน ทองคำ ครั่ง หรือ ชันโรง หรือ ขี้ผึ้ง มีเคล็ดปลีกย่อยในการเลือกไม้ และวิธีการรวมถึงวันที่ทำอีกพอสมควร ยากที่สุดคือการหาไม้ตรงตามที่ระบุ โดยใช้ คาถาบูชา

"มาขะโย มาวะโยมัยหัง มาจะโกจิ อุปัททะโว

ธัญญะธารานิ เม ปะวัสสันตุ ธะนัญชัยยัสสะ ยะถา ฆะเร

สุวัณณานิ หิรัญญา จะ สัพพะโภคา จะ ระตะนานิ

ปะวัสสันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะ ชะฏิลัสสะ จะ

อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะ โชติกะ สุมังคลัสสะ

มัณฑาตุ เวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถา ฆะเร

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม"

ต้นฉบับเดิมไม่ปรากฏรูปแบบของพระ ผู้รู้จึงประดิษฐ์ขึ้น

คาถาบูชาพระเศรษฐีนวโกฏิ

การบูชา ให้ใช้ดอกไม้หลากสี น้ำ ขนมหวานมังสวิรัติ (ไม่ผสมไข่) ฉบับที่อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร สืบทอดมา มิให้ขาดข้าวหลามด้วย ผู้บูชาห้ามมิให้ดื่มสุราเมรัย

คติธรรมที่แฝงอยู่ในพระเศรษฐีนวโกฏิ มุ่งให้ผู้บูชายึดมั่นในการประกอบ ทานบารมี ดั่งนามที่ท่องสวด ซึ่งแต่ละท่าน ตั้งโรงทานบริจาคเป็นประจำ ผู้อยู่ใกล้เคียง ก็ได้รับเมตตากรุณา มีความร่มเย็นเป็นสุข ชาวเมืองหรือชุมชนที่มีบุคคลเหล่านี้อยู่ เมื่อไม่ลำบากต่างก็เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกันมิได้โลภกระหายในทรัพย์สมบัติ ต่างก็มีจิตใจผ่องใสเป็นสุข

ขอบคุณ/ภาพ : วิกิพีเดีย/โซเชียลมีเดีย