พอแล้ว "เบสท์ คำสิงห์" ขอใช้หนี้แทนแค่ 20 ล้าน อย่าหาว่าไม่รักพ่อ

"เบสท์-โบ๊ท คำสิงห์" เปิดใจกลางรายการแฉ ประกาศชัด ไม่ช่วยพ่ออีก หากเกิดเรื่องซ้ำ วอนสังคมเห็นใจ อย่าหาว่าไม่รักพ่อ เพราะช่วยเต็มที่แล้ว
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา "เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์" และ “โบ๊ท ภูวรักษ์ คำสิงห์” ลูกๆ ของ "สมรักษ์ คำสิงห์" อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกของไทย ได้ออกมาเปิดใจอย่างตรงไปตรงกลางรายการ แฉ ทางช่อง GMM25 พร้อมคุณแม่ ถึงปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เบสท์เผยว่า ขณะนี้พ่อมีอาการดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีเพื่อนฝูง มีโปรเจกต์ใหม่ๆ เข้ามาเสมอ ตนก็ให้กำลังใจแต่ขอไม่เข้าไปยุ่งอีกต่อไป “ถ้าจะเริ่มโปรเจกต์อะไรใหม่ๆ หนูก็บอกพ่อว่า ทำเลย แต่หนูไม่ช่วยแล้ว ขอให้จบแค่คดีลอตเตอรี่ 20 ล้าน และเรื่องน้องอายุ 17 เท่านั้น”
เบสท์เล่าว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอและน้องชายช่วยเหลือพ่อมาตลอด โดยเงินที่เสียหายรวมกันกว่า 20 ล้านบาทได้ชำระหมดแล้ว “มันเป็นเงินหลักล้านทั้งนั้น เสียเป็นก้อนๆ 3-4 ล้าน หลายเจ้ารวมแล้วเกือบ 20 ล้าน หนูก็จัดการให้หมดแล้ว”
ในรายการ คุณแม่ของทั้งสองคนยังเผยว่า ได้เลิกรากับสมรักษ์แล้ว แม้จะยังอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน ต่างคนต่างใช้ชีวิต พร้อมกล่าวว่า “จริงๆ อยากให้ทุกอย่างจบตั้งแต่โปรเจกต์แรกแล้ว”
เบสท์ ระบายความในใจ เธอเหนื่อยมากกับการที่ต้องหาเงินใช้หนี้ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง “บางทีเห็นหนูยิ้มอยู่หน้ากล้อง แต่ในใจหนูไม่มีความสุขเลย หนูก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่อยากใช้เงินที่ตัวเองหาได้เหมือนกัน แต่กลับต้องเอาไปใช้หนี้ให้พ่อ”
เธอย้ำชัดกลางรายการว่า หลังจากเคลียร์เรื่องคดีเด็ก 17 เสร็จแล้ว เธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับโปรเจกต์ของพ่ออีกต่อไป
ด้าน โบ๊ท คำสิงห์ ก็เห็นตรงกัน บอกถึงพ่อว่า “ถ้าโปรเจ็กต์หน้าเดี๋ยวให้ตำรวจช่วยเอา ก็แล้วแต่จะทำเลยโตๆกันแล้ว ผมก็อยู่ชีวิตของผมมีความสุขแล้ว ยอมแล้วไม่ไหวแล้ว ”
ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ เบสท์ได้ฝากถึงสังคมและชาวเน็ตว่า หากในอนาคตมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก แล้วเธอไม่ยื่นมือช่วย อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า “หนูทำเต็มที่แล้ว หนูไม่ใช่ไม่รักพ่อ ไม่กตัญญู แต่หนูเหนื่อยมากจริงๆ และอยากใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง”
ขอบคุณ รายการแฉ