พระสำเภาเจดีย์ วัดยานนาวา มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ทำไมมีลักษณะสวยแปลกตา ไปเปิดที่มา พระสำเภาเจดีย์ วัดสวย มีจุดเด่นที่ สำเภาลำใหญ่ และเป็นแห่งเดียวในโลก สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี อีกทั้งยังได้รับการสถาปนาเป็นวัดหลวงมาแล้ว 248 ปี
พระสำเภาเจดีย์วัดยานนาวา ตั้งอยู่ในถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ วัดยานนาวานี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเดิมชื่อว่า “วัดคอกควาย” ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง เพื่อเป็นที่สถิตของพระราชาคณะ และพระราชทานนามว่า“วัดคอกกระบือ”
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมาพร้อมกับสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่แทนหลังเดิมที่ชำรุด และเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ซึ่งปรากฏหลักฐานในหมายรับสั่ง เรื่อง การเสด็จพระราชาทานกฐินหลวง ในวันเสาร์เดือน 11 แรม 8 ค่ำ จุลศักราช 1148 ที่ปรากฏรายนามวัดคอกกระบือ วัดเลียบ (วัดราชบูรณะ) วัดลาด (วัดราชสิงขร) รวม 3 วัด ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสำเภาเจดีย์ขึ้น เมื่อพ.ศ. 2387 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้อธิบายมูลเหตุแห่งการสร้างเรือสำเภาวัดยานนาวาไว้ในพระนิพนธ์ “อธิบายเรื่องสำเภาวัดยานนาวา” ดังนี้
“เมื่อใน รัชกาลที่ 3 พระอุโบสถวัดคอกกระบือทรุดโทรม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์พระอุโบสถแล้วใคร่จะทรงสร้างพระเจดีย์เพิ่มขึ้น ทรงพระราชดำริเห็นว่าจะสร้างเปนพระสถูปหรือพระปรางค์ก็มีอยู่ที่อื่นมากแล้ว ทรงปรารภว่าแต่ก่อนมาเรือที่ใช้ไปมาค้าขายกับต่างประเทศใช้เรือสำเภาเป็นพื้น ในเวลานั้นเกิดต่อเรือกำปั่นใบอย่างฝรั่งใช้กันขึ้น ด้วยเห็นว่าดีกว่าเรือสำเภาจีน ต่อเรือกำปั่นใบอย่างฝรั่งใช้กันมากขึ้นทุกที พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพยากรณ์ว่า เรือสำเภาคงจะสูญไป อาศัยเหตุนี้ เมื่อทรงพระราชดำริหาแบบอย่างพระเจดีย์ที่จะสร้างที่วัดคอกกระบือ ทรงระลึกขึ้นถึงธรรมะทั้งหลายซึ่งพระเวสสันดรโพธิสัตวอุประมาเหมือนสำเภายานนาวาในมหาเวสสันดรชาดกกัณฑ์กุมาร จึงโปรดฯ ให้สร้างพระเจดีย์มีฐานเปนสำเภาเท่าขนาดเรือสำเภาจริงขึ้นไว้ที่วัดคอกกระบือ มีพระราชดำรัสว่า คนภายหน้าอยากจะเห็นว่า เรือสำเภาเป็นอย่างไร จะได้มาดู"
เมื่อสร้างสำเภาพระเจดีย์แล้ว จึงโปรดฯ ให้ขนานนามพระอารามใหม่ว่า วัดยานนาวา ซึ่งเรียกกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ สำเภาก่อสร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน ความยาวตลอดลำ วัดแต่หงอนข้างบนถึงบั้นท้ายบาหลี ได้ 21 วา 2 ศอก ส่วนยาววัดจากพื้นดินได้ 18 วา 1 ศอกเศษ ส่วนกว้างตอนกลางลำ 4 วา 3 ศอก ส่วนสูงตอนกลางลำ 2 วา 3 ศอกบนสำเภามีพระเจดีย์ตั้งอยู่ 2 องค์ เป็นสถาปัตยกรรม “แบบขนบประเพณี” พระเจดีย์องค์เล็กอยู่ด้านหน้า เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบหก ฐานล่างกว้าง 7 ศอกเศษ สูงจากพื้นบนถึงยอด 6 วา และองค์ใหญ่เป็นเจดีย์ย่อยมุมไม้ยี่สิบ ฐานล่างกว้าง 3 วา หนึ่งศอกเศษ สูงจากพื้นถึงยอด 8 วา
ทางด้านหัวเรือ มีลักษณะแหวะออกเรียกว่าปากปลา มีปูนปั้นทางสีเป็นรูปหยินหยางอยู่ตรงกลาง ถัดหัวเรือเข้ามาทั้ง 2 ข้าง เขียนเป็นตาเรือ มีลักษณะมองตรงไปทางด้านหน้า
ภายในสำเภาด้านท้ายเรือ มีบันไดทางขึ้น 2 ทางไปยังบริเวณห้องท้ายบาหลี ประดิษฐานพระพุทธยานนาวาจำลอง ในบุษบก ด้านหลังพระพุทธรูปมีจารึก 2 แผ่น เป็นภาษาไทย 1 แผ่น และภาษาจีน 1 แผ่น รวมทั้งมีพระไตรปิฎกเสี่ยงทาย ส่วนทางหัวเรือสำเภามีบันไดทางขึ้น หัวเรือประดิษฐานพระพุทธรูปสร้างใหม่ 2 องค์ ได้แก่
กรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนเรือสำเภาและเจดีย์ พร้อมด้วยแผ่นศิลาจารึกของวัดยานนาวาเป็นโบราณสถาน เมื่อพุทธศักราช 2526 ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 100 ตอนที่ 36 วันที่ 15 มีนาคม 2526
ขอขอบคุณ : กระทรวงวัฒนธรรม. ปกิณกวัฒนธรรม วัดยานนาวา และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมบริเวณใกล้เคียง.
กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม,๒๕๖๕.