ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน

13 เมษายน 2566

วันนี้ปาฏิหารย์ตำนานดัง จะพาไปย้อน ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน ดินแดนที่พึ่งถูกค้นพบและเป็นแลนด์มาร์ค สถานที่ท่องเที่ยวของ จ.บึงกาฬ

ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน

ตาม ตำนานปู่อือลือ ที่ข้องเกี่ยวกับ บึงโขงหลง นั้น เชื่อว่า เกิดจากการล่มเมืองของ พญานาค ที่เกิดจากความรักที่ไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลาย บริเวณแห่งนี้เดิมเป็นที่ตั้งเมือง ชื่อ รัตพานคร มี พระอือลือราชา เป็นผู้ครองนคร มีมเหสีชื่อ นางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อ พระนางเขียวคำ 

ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน

ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด มีความรอบรู้ และมีรูปงามด้วย ขณะประสูติมีท้องฟ้าสว่างไสว ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับ นาครินทรานี ซึ่งเป็นพระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาล ที่แปลงกายเป็นมนุษย์ จัดงานอภิเษกสมรสกันอย่างมโหฬาร ทั้งเมืองบาดาล และเมืองมนุษย์ (รัตพานคร) ทำอยู่ 7 วัน 7 คืน เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างพญานาคราช กับ พระเจ้าอือลือราชา 
 

ในโอกาสนี้ด้วย เจ้าชายฟ้ารุ่ง กับ นาครินทรานี ทั้งสองอยู่กินกันมาเป็นเวลา 3 ปี ก็ยังไม่มีผู้สืบสายสกุลสักที (เพราะธาตุมนุษย์กับนาค) จึงทำให้เกิดความเศร้าโศกเสียใจกับทั้งสอง ต่อมาเจ้าหญิงนาครินทรานี ล้มป่วยลง ทำให้ร่างกายของนางที่เป็นมนุษย์กลายเป็นนาคตามเดิม ข่าวนี้ได้แพร่สะพัดออกไปทั่วกรุงรัตพานคร แต่ถึงแม้นางจะร่ายมนตร์กลับเป็นมนุษย์ ประชาชนและพระเจ้าอือลือก็เกิดไม่พอใจ จึงได้ขับไล่นางนาครินทรานีกลับสู่เมืองบาดาลดังเดิม 

 

โดยแจ้งให้พญานาคราชมารับตัวกลับไป ก่อนจะกลับไปเมืองบาดาล พญานาคราช ได้ขอเครื่องกกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถคืนให้ได้ เนื่องจากนำไปแปรสภาพเป็นอย่างอื่น ทำให้พญานาคราชโกรธมาก และประกาศว่าจะทำลายเมืองรัตพานคร และจะเหลือเอาไว้เพียง 3 วัดเท่านั้น 

 

หลังจากพญานาคกลับไปแล้ว ตอนกลางคืนก็ได้ยกไพร่พลมาถล่มเมืองรัตพานคร และประชาชนก็ไม่มีใครรอดพ้นจากฤทธิ์นาคได้ พอนางนาครินทรานีทราบข่าว ก็ขึ้นมาตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง จนถึงแม่น้ำสงครามก็ไม่พบ จึงกลับเมืองบาดาล และ เมืองรัตพานครได้ถล่มเป็น "บึงหลงของ" ต่อมานานเข้าคำพูดก็กลายเป็นโขงหลง ส่วนวัดที่เหลือ 3 วัด ก็คือ วัดดอนแก้ว (วัดแก้วฟ้า) วัดดอนโพธิ์ (วัดโพธิสัตว์) และ วัดดอนสวรรค์ (วัดแดนสวรรค์) ทางที่นางนาครินทรานีตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง คือ ห้วยน้ำเมา (เมารัก) ส่วนพระอือลือราชา ไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปกับเหตุการณ์นี้ด้วย แต่ถูกพญานาคราชจับตัวไว้ พร้อมกับสาปให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นนาค เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้ จึงจะล้างคำสาปของพญานาคได้

ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน

เมื่อปี พ.ศ. 2563 ถ้ำนาคา ก็ถูกค้นพบขึ้น โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์วินิจ สุเมโทร จากวัดถ้ำชัยมงคล ได้บันทึกภาพกลุ่มหินที่เกิดการกัดกร่อน มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงู ประกอบกับการโค้งตัวของหินทำให้รูปร่างโดยรวมคล้ายกับการขดตัวของงูใหญ่หรือพญานาค ถ้ำนาคาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมมาก 

 

หากจะให้ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดเข้าด้วยกัน อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ชาวบ้านมีความเชื่อว่ากลุ่มหินรูปงู อาจจะเป็นงูยักษ์ตายแล้วกลายเป็นหิน เมื่อหลายร้อยล้านปีมาแล้ว งูยักษ์พอตายลงยังไม่เน่าเปื่อยก็โดยทับถมด้วยดินหินมานับล้านปี จนแร่ธาตุจับเกาะในตัวงูกลายเป็นหิน ผูกเข้ากับตำนานท้องถิ่นทีว่า องค์อือลือเคยอาศัยอยู่ เป็นราชาผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาค ทำให้เมืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง องค์อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ ปัจจุบันเชื่อกันว่า เมืองที่ว่านี้อยู่ที่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ตำนานปู่อือลือ กับ คำสาปงูกลายเป็นหิน

และนี่ก็คือเรื่องราว ปาฏิหารย์ตำนานดัง ของ ตำนานปู่อือลือนาคราช  จ.บึงกาฬ