เช็กเงื่อนไข การแจกเงิน 3,000 บ. ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ เริ่มจ่าย พ.ค. 67

18 เมษายน 2567

เช็กเงื่อนไข การแจกเงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อเดือน "ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ" เริ่มจ่ายเดือนแรก พฤษภาคม 2567

ทางด้าน กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าโครงการ "ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ" ซึ่งทางภาครัฐจะสนับสนุนงบประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ให้ลูกหลานที่ต้องลาออกมาดูแลเครือญาติ หรือคนในชุมชน ที่ดูแลผู้สูงอายุเปราะบางแล้วไม่มีใครดูแล เพื่อที่จะไม่ต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์พัฒนาการและสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ

เช็กเงื่อนไข การแจกเงิน 3,000 บ. ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ เริ่มจ่าย พ.ค. 67

โดยระเบียบในราชกิจจานุเบกษา ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ประกอบกับข้อ 2 แห่งประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ จึงวางระเบียบไว้

การคุ้มครองตามระเบียบนี้ ผู้สูงอายุต้องยินยอมเป็นหนังสือตามแบบที่อธิบดีกำหนด กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถให้การยินยอมได้ ให้นักสังคมสงเคราะห์เป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริง และเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการ ขอคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุ ให้ขอได้เพียงคราวละ 1 คน  หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน

คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ ได้ 3000 บาทต่อเดือน

  • มีสัญชาติไทย
  • มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี ซึ่งมีความพร้อมและศักยภาพในการดูแลผู้สูงอายุ  อาจได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการ เป็นราย ๆ ไป  
  • มีที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแหล่งและอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ
  • ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่ามีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายุ
  • ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระท้าผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล

ขั้นตอนการขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ

1. ในท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นค้าขอได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด

2. ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นค้าขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด  หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น การยื่นค้าขอตามวรรคหนึ่ง ต้องแสดงเอกสารหลักฐานของผู้ยื่น ได้แก่ 

  • ทะเบียนบ้าน  
  • บัตรประจ้าตัวประชาชน หรือ บัตรประจ้าตัวประเภทหนึ่งประเภทใดที่มีเลขประจ้าตัวประชาชน  
  • รูปถ่ายหน้าตรงซึ่งถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน จำนวน 1 รูป

เงื่อนไขการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ

  • ให้นักสังคมสงเคราะห์ หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายไปเยี่ยมบ้านของผู้ยื่นคำขอและผู้สูงอายุ เพื่อสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อมูล ทั้ง ประวัติบุคคล, ครอบครัว, บุคคลที่เกี่ยวข้อง, สภาพความเป็นอยู่ และความเหมาะสม 

จำนวนเงินที่ได้รับการคุ้มครอง

  • เงินช่วยเหลือคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุแก่ครอบครัวอุปถัมภ์ ครอบครัวละ 2,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นและเหมาะสม อาจพิจารณาให้เงินช่วยเหลือได้ไม่เกินครอบครัวละ 3,000 บาทต่อผู้สูงอายุ 1 คนต่อเดือน และจะเริ่มเดือน พ.ค. 2567

โดยทางด้าน เว็บไซต์กรมกิจการผู้สูงอายุ รายงานว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยปีแรกตั้งงบประมาณรองรับ 1,100 ราย