เผยเงื่อนไข! ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษี 40,000 บาท ต้องซื้ออะไรบ้าง

21 ธันวาคม 2565

ช้อปดีมีคืน เป็นมาตรการลดหย่อนภาษีที่รัฐบาลออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เราสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 ไปใช้ลดหย่อนภาษีได้มากกว่าเดิม คือ 40,000 บาท

เผยเงื่อนไข! ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษี 40,000 บาท ต้องซื้ออะไรได้ภาษีคืนสูงสุด เช็กได้ที่นี่ 

เผยเงื่อนไข! ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษี 40,000 บาท ต้องซื้ออะไรบ้าง

โครงการช้อปดีมีคืน 2566 เป็นหนึ่งมาตรการที่รัฐบาลมอบเป็นของขวัญปีใหม่ โดยเป็นมาตรการที่เน้นการบริภายในประเทศ เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะให้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2566 กลุ่มเป้าหมายของโครงการดังกล่าวจะเน้นในกลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีและการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์

ใครที่สามารถใช้สิทธิ ช้อปดีมีคืน 2566 ได้บ้าง?

ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องเสียภาษี 2566 ที่ต้องการนำค่าใช้จ่ายจากโครงการช้อปดีมีคืนไปลดหย่อนภาษี 2566 ที่จะต้องยื่นแบบในต้นปี 2567

เงื่อนไขการรับสิทธิโครงการช้อปดีมีคืน 2566

  • ซื้อสินค้า หรือบริการที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 66
  • ต้องซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปให้ได้เท่านั้น ยกเว้นการซื้อสินค้าโอทอป (OTOP) และหนังสือหรือ E-book ที่ใช้ใบเสร็จรับเงินได้ โดยระบุชื่อ-นามสกุลให้ชัดเจน
  • สินค้าและบริการที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ต้องเป็นสินค้าและบริการที่เสียภาษี VAT หากเป็นสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี VAT จะไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
  • หากจ่ายค่าสินค้าในปี 2565 แต่ไปใช้บริการในวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 66 จะไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้ เพราะถือว่าไม่ได้ใช้จ่ายในช่วงเวลาที่กำหนด

ช้อปดีมีคืน 2566 ลดหย่อนภาษีได้ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท แบ่งได้ดังนี้

ค่าซื้อสินค้า-บริการ จำนวน 30,000 บาทแรก โดยออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษ หรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
ค่าซื้อสินค้า-บริการ อีกจำนวน 10,000 บาท เฉพาะใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ออกผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
กรณีที่ซื้อสินค้า 40,000 บาท ไม่ได้แปลว่าจะหักภาษีได้ 40,000 บาท แต่จะลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่นั้นอยู่ที่ฐานภาษีของตนเอง ต้องคำนวณจากเงินได้สุทธิที่เหลืออยู่ด้วย ซึ่งแต่ละขั้นจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุดตามตารางดังต่อไปนี้

โครงการช้อปดีมีคืน 2565 มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุดเท่าไหร่ ?

  • เงินได้สุทธิต่อปี 0-150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี (ไม่ได้สิทธิคืนภาษี)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 150,001-300,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 5% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 2,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 300,001-500,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 10% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 4,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 500,001-750,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 15% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 750,001-1,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 20% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 8,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 25% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 10,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 30% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 12,000 บาท)
  • เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษีเงินได้ 35% (มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 14,000 บาท)

ทั้งนี้ หากมีเงินได้สุทธิ 600,000 บาท ฐานภาษีอยู่ที่ 15% หากใช้จ่ายช้อปดีมีคืน 2566 เต็มวงเงิน 40,000 บาท จะหักลดหย่อนภาษีได้ 6,000 บาท